รมช.คมนาคมให้กทท.เร่งพัฒนาการขนส่งสินค้าเข้า-ออกให้ได้ถึง 18 ล้านทีอียู

กทท. 22 ก.พ.-“พิชิต อัคราทิตย์”รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมอบนโยบายการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เร่งเพิ่มขีดความสามารถขนส่งสินค้าเข้า-ออกให้ได้ถึง 18 ล้านทีอียูตามการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศพร้อมปรับปรุงด้านคุณภาพบริการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น


นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) พร้อมนโยบายแก่กทท. ให้เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าเข้า – ออก ให้ได้ถึง 18 ล้านทีอียู เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของปริมาณสินค้าและบริการการนำเข้าส่งออกของประเทศในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านการพัฒนาประเทศให้สามารถก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว

สำหรับการบริหารจัดการธุรกรรมหลักของ กทท. ให้คำนึงถึงด้านคุณภาพของสินค้าและการบริการด้านการขนส่ง เนื่องจากรูปแบบจะเปลี่ยนจากสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะแต่มีมูลค่าน้อย เป็นสินค้าที่มีปริมาณน้อยแต่มีมูลค่าสูง ซึ่ง กทท. จะต้องพัฒนาการดูแลการขนส่งสินค้าและบริการประเภทนี้ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ กทท. จะต้องสอดคล้องกับการพัฒนาระบบอื่น ๆ เช่น การขนส่งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และการขนส่งสินค้าชายฝั่งทะเล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบ EEC


ด้านการบริหารสินทรัพย์ ให้ กทท. บริหารจัดการให้ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะท่าเรือกรุงเทพที่มีพื้นที่เกือบ 700 ไร่ และท่าเรือแหลมฉบังมีพื้นที่เกือบ 3,000 ไร่ ต้องบริหารจัดการให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเทียบเท่าผลตอบแทนในตลาด ซึ่งปัจจุบัน กทท. มีสินทรัพย์กว่า 50,000ล้านบาท ได้รับผลตอบแทนไม่เกิน 700 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนประมาณร้อยละ 1.21 ส่วนการบริหารจัดการองค์กรให้ยั่งยืน ให้ กทท. บริหารจัดการองค์กรให้สอดคล้องกับรูปแบบองค์กรที่จะพัฒนาไปข้างหน้า และจะต้องรักษาบุคลากรซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญขององค์กร เพื่อช่วยพัฒนาองค์กรและตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

ทั้งนี้ ผู้บริหาร กทท. ได้รับทราบนโยบายและจะจัดทำแผนการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบภายใน 2 สัปดาห์-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม