ปทุมธานี 17 ธ.ค.-หลังครบกำหนด 4 วัน ที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะสามารถนำหมายเข้าค้นวัดพระธรรมกาย ตามที่ศาลอาญาอนุมัติ แต่ที่สุดแล้วก็ยังไร้เงา เจ้าหน้าที่นำหมายเข้าตรวจค้น
ความคืบหน้า เช้าวันนี้มีกระแสข่าว DSI จะเข้าจะเข้าปฏิบัติการยึดกำแพงวัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยไปสังเกตการณ์บริเวณ ประตู 7 ถนนสายบางขัน-หนองเสือ พบว่าเหตุการณ์เป็นปกติแต่มีรถเข้า-ออกน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งด่านรอบๆวัด ก็ยังมีการตรวจรถตู้ประจำทาง และไม่ประจำทางที่เข้า-ออกทุกคัน เพื่อป้องกันมือที่ 3
แต่ว่าในช่วงบ่าย (14.30 น.) ตำรวจ สภ.คลองหลวง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานเทศบาลเมืองท่าโขลง พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม นำแผ่นผ้าขนาดใหญ่ มีใจความว่า “ของกลางคดีอาญาที่ 2284/2559 ห้ามใช้ห้ามเคลื่อนย้ายหรือกระทำการใดๆ ให้สูญหาย เสียหาย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายและถูกดำเนินคดีต่อไป สภ.คลองหลวง” ทั้งหมด 17 จุด โดยนำหมายไปติดที่ประตูต่างๆของวัดพระธรรมกาย ในเขตเทศบาลเมืองท่าโขลง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จำนวน 12 จุด และนำไปติดที่ประตูวัดพระธรรมกาย ในเขตพื้นที่ อบต.คลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อีก5 จุด
ต่อมาเวลา 15.00 น. ทางวัดพระธรรมกายออกมาแถลงข่าวที่บริเวณหน้าประตู 7 โดยนายธัชนนท์ พรใบหยก ทนายความของวัด ชี้แจงว่าจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและพนักงานท้องถิ่น ได้ดำเนินคดีเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายกรณีที่ อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อการศาสนา ไม่ได้รับอนุญาตนั้นกฎหมายนี้เป็นกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2550 อาคารที่เกี่ยวกับทางพระพุทธศาสนา ซึ่งปกติแล้วตามกฎหมายไม่ต้องขออนุญาต แต่ว่ามีการยื่นแบบก่อสร้างไปที่พนักงานท้องถิ่นเพื่อทราบ ซึ่งดูตามเนื้อหาแล้วอาคารก็ทำเพื่อพระศาสนา ให้ดูมาตรา 7 และมาตรา 4 ซึ่งระบุไว้เช่นนั้น เรื่องการก่อสร้างในส่วนของประตู 4 ขออนุญาตเรียบร้อยแล้ว
พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรของวัด กล่าวว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของกฎหมาย ทุกวัดได้รับอนุญาตในการก่อสร้างอาคาร ใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะวัดพระธรรมกาย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายกฎหมายติดตามรายละเอียดและกฎระเบียบทั้งหมดแล้วปฏิบัติตาม ซึ่งยินดีที่จะให้มาคุยในเรื่องรายละเอียดได้ ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้ามาตรวจสอบกับฝ่ายกฎหมายของวัด พร้อมติงสื่อมวลชนที่ลงข่าว ว่ามีการเตรียมพระเปื้อนจีวร หรือจีวรเปื้อนเลือด ส่วนกรณีมีข่าว DSI ถ่ายภาพพระธัมมชโยได้ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นภาพจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้พบเห็นพระธัมมชโย มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว
ส่วนช่วงเย็นที่ผ่านมา (17.00 น.) พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สวป.สภ.คลองหลวง นำหนังสือขอความอนุเคราะห์ส่งตัว พระธัมมชโย ซึ่งกระทำความผิด พรบ.ป่าไม้ และนายองอาจ ธรรมนิทา ซึ่งกระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์และความผิดฐานหมิ่นประมาท ผู้ต้องหาตามหมายจับนำมาติดที่บริเวณหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย ขอให้นำตัวมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวนภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมาย ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 189 ฐานช่วยผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่าด้วยกระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ความรักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจำคุกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย