แกะรอยโจรกรรมหนังสือโบราณคู่เมืองนคร

นครศรีธรรมราช 21 ก.ค. – หลังจากวานนี้ สำนักข่าวไทย นำเสนอให้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือบุด หรือสมุดข่อย ที่หายไปจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จำนวนหลายร้อยเล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามหา วันนี้จะพาย้อนรอยดูกลวิธีในการโจรกรรมหนังสือโบราณเหล่านี้ออกไปขาย ซึ่งเชื่อกันว่า บางส่วนเป็นการขโมยไปขายตามใบสั่ง




นี่คือความเห็นของประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ผู้ริเริ่มก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมเก็บรักษาหนังสือบุด ที่เชื่อมั่นว่า การหายไปของหนังสือบุดจำนวนหลายร้อยเล่ม เป็นการจงใจนำออกไปขายให้กับผู้ซื้อที่มีการเจรจาตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งผู้รับซื้อบางส่วนอาจไม่ทราบแหล่งที่มาว่า ผู้ขายได้มาจากการโจรกรรมสมบัติคู่แผ่นดินจากสถานที่ราชการ โดยความเห็นนี้สอดคล้องกับผลการสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของทางมหาวิทยาลัยเอง หลังพบข้อมูลตรงกันว่า การหายไปของหนังสือบุด เป็นการลงมืออย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงวันเดียว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุจารี แก้วคง รองอธิการบดีฯ ในฐานะประธานสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีหนังสือบุดสูญหาย ให้ข้อมูลว่า หนังสือบุดที่ถูกขโมยไปจากตู้เก็บรักษา หากไม่ตรวจสอบอย่างรอบคอบ จะไม่ทราบว่ามีหนังสือถูกขโมย เพราะผู้ขโมยตั้งใจอำพรางด้วยการนำหนังสือบุดเล่มอื่นมาไว้แทนที่ แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาคัดเลือกเฉพาะหนังสือบุดเล่มที่ต้องการไว้ล่วงหน้า จนถึงตอนนี้ยืนยันว่า มีหนังสือบุดสูญหายทั้งหมด 309 เล่ม และทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มคู่ขนานไปกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งเป้าการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน


ด้านรักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่แทนอธิการบดี ซึ่งถูกสภามหาวิทยาลัยฯ สั่งพักงาน กล่าวขอโทษต่อสังคมที่มีการโจรกรรมมรดกอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ภายในมหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ปัจจุบันได้วางมาตรการคุมเข้ม เพื่อปกป้องรักษาหนังสือบุดส่วนที่เหลือ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกมุม รวมถึงเตรียมเชิญสำนักโบราณคดีที่ 14 และหอสมุดจดหมายเหตุ มาร่วมทำทะเบียนหนังสือบุดที่เหลือ จัดทำโครงการปริวรรต หรือการแปลตัวอักษรขอมในหนังสือบุดเป็นภาษาไทย บันทึกลงไมโครฟิล์ม ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา แทนวิธีการศึกษาจากหนังสือบุดฉบับจริง ซึ่งบางเล่มอยู่ในสภาพเก่ามาก เพราะตกทอดกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพกาล

สำหรับการติดตามตัวคนร้ายที่ขโมยหนังสือบุด ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย ป็นบุคคลภายในมหาวิทยาลัยเอง โดยแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการเวลากลางคืน โทษจำคุกสูงสุด 8 ปี และอยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ มั่นใจว่า ยังคงเป็นบุคคลภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ซึ่งเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมในเร็ววันนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก