ทิศทางคดี “น้องชมพู่” เสียชีวิตปริศนาบนเขา

มุกดาหาร 16 ก.ค. – ครบ 66 วัน ตั้งแต่ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กระทั่งพบเสียชีวิตปริศนาบนภูเหล็กไฟ จนถึงขณะนี้ตำรวจยังขอศาลออกหมายจับใครไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิต ทิศทางคดี “น้องชมพู่” จะเดินหน้าไปอย่างไร ติดตามจากรายงาน


คดีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ครบ 66 วัน ตั้งแต่หายตัวไปจากบ้าน 11 พฤษภาคม ก่อนพบนอนเปลือยเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟในอีก 3 วันถัดมา จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ เพราะแพทย์นิติเวช 3 โรงพยาบาล ให้ความเห็นตรงกันว่า เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่การสืบสวนสอบสวนก็ยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง อย่างเช่น การเดินพลัดหลงขึ้นไปเอง แต่ก็เป็นไปได้น้อย เพราะยังไม่มีสมมติฐานและหลักฐานรองรับ จึงให้น้ำหนักที่ประเด็นมีคนนำพาขึ้นไปมากกว่า ซึ่งหนึ่งในหลักฐานยืนยัน คือ ผมน้องชมพู่ถูกตัดหายไป 36 เส้น


อย่างไรก็ตาม ยังมีผมอีก 1 เส้น ที่ตกใกล้ศพน้องชมพู่ ซึ่งผลตรวจ DNA ออกมาไม่ตรงกลุ่มผู้ต้องสงสัย และผู้เข้าข่ายที่จะไปปรากฏตัวบนภูเหล็กไฟช่วงเกิดเหตุนับร้อยคน จึงมีการเก็บ DNA เพิ่มในกลุ่มแพทย์ อาสาสมัครกู้ภัย เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนที่ขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อคัดแยกหลักฐานและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออก ขณะนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยที่จับตาเป็นพิเศษราว 10 คน ระหว่างคนใกล้ชิด และคนนอก ยังให้น้ำหนักเท่ากัน 


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารยังปฏิเสธว่า ไม่พบการเขียนบนร่างน้องชมพู่ ข้อความคล้ายๆ แทนกู้ เพราะไม่มีในสำนวนการสอบสวน และไม่ปรากฏในรายงานการชันสูตรพลิกศพ ส่วนการพบรูตามร่างกาย เป็นลักษณะแผลกดทับ ไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการทำร้าย

คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน รัฐสภา จะลงพื้นที่มาตรวจสอบรับฟังปัญหา ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ซึ่งชาวบ้านกกกอก เตรียมเสนอให้มีการเยียวยาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่เป็นอันทำมาหากิน กลัวถูกจับเป็นแพะ อยากให้เร่งคลี่คลายคดี เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข 

คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา เป็นคำสั่งที่ชุดคลี่คลายคดี “น้องชมพู่” ยึดเป็นแนวทาง หากไม่ปรากฏผู้กระทำความผิด และไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานสืบสวนสอบสวนต่อ ให้งดการสอบสวน หลังดำเนินการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี แต่หากมีหลักฐาน สามารถสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้ภายในอายุความ อีกกรณีรู้ตัวผู้กระทำความผิด แต่ยังจับไม่ได้ และไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม ให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการ แต่หากยังมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานสืบสวนสอบสวนต่อ ให้ขยายเวลาตามเหตุจำเป็นได้ครั้งละ 3 เดือน จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”