กทม.14ก.ค.- จบด้วยดี ไกล่เกลี่ย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.กับคนขับ จยย. ด้านตำรวจขอเอกสารรถของกลางที่ ป.ป.ส.ครอบครอง หลังมีข่าวรถวอลโว่ที่ขับชน จยย.อาจเป็นรถของกลางในคดี
ความคืบหน้ากรณี ที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ขับรถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บ 2 คน และมีการทำร้ายร่างกายคนขับขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธข่มขู่และเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้าปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ ชายคนดังกล่าวก็มีการห้าม ไม่ให้ปฐมพยาบาลช่วยเหลือคนเจ็บ
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 -12.00 น. นายเก่ง ไกรสรณ์ พร้อมนายต๋อง แซ่หุ้น ผู้เสียหาย และนายภาสกร ลอยอินทรัตน์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ถือครั้งเป็นครั้งแรกที่ผู้เสียหายได้พบกับคู่กรณี
เบื้องต้นนายภาสกร จ่ายค่าทำขวัญให้นายเก่ง จำนวน 15,000 บาท ให้นายต๋อง 10,000 บาท ซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ ส่วนค่ารักษาพยาบาลจะจ่ายให้ตามจริงจนกว่าจะหายเป็นปกติ ผู้เสียหายยอมรับในเงื่อนไข และผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงยอมยกโทษและให้อภัย นอกจากนี้นายต๋องยังบอกว่า ขณะเกิดเหตุ นายภาสกร มีอาการคล้ายกับคนเมาสุรา ไม่รู้ว่าตำรวจได้ตรวจแอลกอฮอล์หรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของตำรวจ และหลังจากการเจรจาเสร็จสิ้น นายภาสกร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้วิ่งหนีสื่อมวลชน ขึ้นรถยนต์สีขาวออกไปทันที
หัวหน้างานนายภาสกร บอกว่า พาตัวนายภาสกร ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอโทษและจ่ายเงินค่าทำขวัญ ค่ารักษาพยาบาล ส่วนรายละเอียดอื่นขอให้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนในการให้ข้อมูล ส่วนเรื่องรถยนต์วอลโว่ที่นายภาสกร นำมาใช้ต้องตรวจสอบกับ สำนักงาน ป.ป.ส (ดินแดง)
ด้านพันตำรวจเอกรังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า คดีนี้จะต้องแยกออกเป็น 2 เรื่อง คือคดีอุบัติเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน กับคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหากับนายภาสกร คือมีและพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข่มขู่และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนประเด็นที่ว่ารถคันก่อเหตุอาจเป็นรถของกลางในคดีนั้นเบื้องต้นได้ประสานทาง ป.ป.ส. ให้ส่งรายละเอียดรถยนต์ของกลางทั้งหมดในคดีต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ส. มาให้พนักงานสอบสวน ทำการตรวจสอบว่า เป็นรถของกลางจริงหรือไม่ ถ้าใช่ผู้ต้องหานำไปใช้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ตำรวจ สน.ดอนเมือง ยังไม่มีการชี้แจง กรณีไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายขณะเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย
