ประจวบคีรีขันธ์ 29 มิ.ย.- “พัลลภ” ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ นำทีมแถลงละเอียดนานนับชั่วโมงกรณีงบประมาณถูกพนักงานราชการยักยอกเกือบ 40 ล้านบาท จากเดิม 33.9 ล้านบาท เร่งสอบหากมีข้าราชการบกพร่องก่อนจัดการทางวินัย และต้องชดใช้ค่าเสียหายจากความผิดฐานละเมิด ด้าน ผบก.ภ.จว.ระบุคดีคืบหน้ามาก ประสาน ป.ป.ง. สืบเส้นทางโอนเงินไปเว็บพนันออนไลน์
เมื่อเวลา 17.50 น. (29 มิ.ย.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถนนสวนสน–อ่าวน้อย นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อม 3 รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการาสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และ น.ส.เกศริน ภัทรเปรมเจริญ หัวหน้าสำนักงานคลังจังหวัดแถลงกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกจับกุมดำเนินคดีจากการยักยอกงบประมาณ 39.2 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวฝากขังผัดแรกในเรือนจำ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการแถลงใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
นายพัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้พบยอดเงินในการทุจริตเพิ่มจาก 33.9 ล้านบาท เป็น 39.2 ล้านบาท โดยพบการใช้ระบบออนไลน์ทำข้อมูลเท็จโอนเงินเข้าบัญชีเครือญาติ พร้อมปลอมลายมือผู้มีอำนาจจากบัญชีเช็คงบประมาณจังหวัด สั่งเบิกจ่ายเงินสดจากธนาคารกรุงไทย พบความผิดตั้งเดือนเมษายน 2562 ต่อเนื่องถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เนื่องจากได้รับแจ้งจากธนาคารกรุงไทยว่าเช็คของสำนักงานจังหวัด ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ขณะที่ทางราชการอายัดเงินคืนได้เพียงกว่า 700,000 บาท พร้อมสั่งให้พนักงานราชการรายนี้ออกจากราชการ และจะตรวจสอบย้อนหลังกรณีได้สอบบรรจุเป็นพนักงานราชการเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ว่ามีความสามารถสอบได้เองหรือมีข้อพิรุธอย่างไร สำนักงานจังหวัดมีการประกาศเปิดสอบให้บุคคลทั่วไปเข้าสอบแข่งขันหรือไม่
“ล่าสุดได้ให้หัวหน้างานการเงินหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่รับเงินเดือนตามปกติ ภายหลังพบความบกพร่อง เนื่องจากได้รับการรายงานว่าเช็คงบประมาณจังหวัดหายไป 6 ฉบับ ยังไม่มีการแจ้งความเช็คหาย และสั่งการให้นักวิชาการการเงินจากสำนักงานปกครองจังหวัดทำหน้าที่แทนชั่วคราว แต่ยังไม่มีการใช้คำสั่งทางการปกครองสั่งย้ายข้าราชการรายใดในสำนักงานจังหวัด ส่วนการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ภายหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการตั้งบุคคลภายในสำนักงานจังหวัดสอบสวนกันเอง อาจมีการช่วยเหลือในการปกปิดข้อมูลทำให้เจ้าหน้าที่บางรายพ้นผิด ยืนยันว่าว่าถ้ากรรมการรายใดไม่เหมาะสมสามารถพิจารณาเปลี่ยนแปลงได้ทันที “นายพัลลภ กล่าว
นายพัลลภ กล่าวอีกว่า การมอบอำนาจที่ให้พนักงานราชการทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินและมอบรหัสผ่านให้เข้าถึงระบบการเบิกจ่ายระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ จากการผู้มีอำนาจสั่งจ่าย 2 ราย เบื้องต้นเป็นการมอบงานด้วยความความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบสวนพบปัญหาจากการเบิกจ่ายที่ทำให้มีการทุจริต เกิดจากความบกพร่องของข้าราชการรายใดก็จะต้องรับผิดชอบทั้งทางวินัยและชดใช้ค่าเสียหายในทางละเมิด ตามอำนาจหน้าที่ได้รับมอบหมาย ส่วนสามีของผู้ต้องหาในทางพฤตินัยที่ทำหน้าที่ลูกจ้างประจำ สำนักงานจังหวัดนั้น พบว่ายังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ให้ช่วยติดตามเงินที่โอนไปเว็บพนันออนไลน์ โดยเฉพาะการนำเงินไปฝากไว้ในเว็บเพื่อถอนคืนในภายหลัง หากพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ใดก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมติดตามเส้นทางการเงินที่โอนให้เครือญาติ แต่ขณะนี้ยังไม่ออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม
ด้านนายกิตติพงศ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ กล่าวว่า จะสรุปผลสอบข้อเท็จจริงเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดได้ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยสนใจปัญหาการลงลายมือชื่อในเช็คเปล่า เช็คที่สั่งจ่าย 300,000 บาท ให้หัวหน้างานการเงิน โดยยึดได้จากบ้านพักของผู้ต้องหา ดังนั้นจะต้องสอบถามผู้เกี่ยวข้องว่าเหตุใดเช็คงบประมาณจังหวัดจึงสูญหายไปจากสำนักงานจังหวัด และทราบว่ายังไม่มีการแจ้งความเอกสารสำคัญทางการเงินสูญหาย.-สำนักข่าวไทย