BIG STORY : หลายฝ่ายกระตุ้น “ฌอน บูรณะหิรัญ” แจงปมเงินบริจาคให้ชัด

29 มิ.ย. – แกนนำอาสาดับไฟป่าบนดอยสุเทพ ยืนยันไม่เคยพบ “ฌอน บูรณะหิรัญ” รวมถึงไม่เคยได้รับความช่วยเหลือตลอดระยะเวลาที่เกิดไฟป่า ขณะที่นายอำเภอเมืองเชียงใหม่แจงชัด การรับเรี่ยไรครั้งนั้นไม่มีการยื่นขออนุญาตอย่างเป็นทางการ


ปมดราม่าสุดร้อนแรงเกี่ยวกับการเปิดรับบริจาคเงินของ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ช หรือ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจเพื่อช่วยดับไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม กระทั่งมีการทวงถามความชัดเจนเกี่ยวกับยอดเงินบริจาค รวมถึงการนำไปช่วยเหลือดับไฟป่า และชี้แจงการใช้จ่ายเงินอย่างชัดเจน และก่อนหน้านั้น “ฌอน บูรณะหิรัญ” ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ชี้แจงประเด็นดังกล่าว และโชว์หลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อ้างว่าได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ยังกระตุ้นให้ชี้แจงให้ชัดเจนมากกว่านี้


ทีมข่าวสำนักข่าวไทยเดินทางไปพบนายขจร ประเสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านดอยสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และพบภาพถ่ายการเข้าดับไฟป่าของทีมอาสาดับไฟป่า ภาพการรับบริจาคสิ่งของจากภาคเอกชนมาให้ผู้สื่อข่าวดู ยืนยันว่าไม่เคยพบกับ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ตลอดระยะเวลาที่เกิดไฟป่าบนดอยสุเทพตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-เมษายน ชาวบ้านดอยสุเทพกว่า 100 คน เป็นทีมอาสาดับไฟป่า และมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุ่ย เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟที่มาจากทั่วประเทศลงพื้นที่มาช่วย แต่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจาก “ฌอน บูรณะหิรัญ” หรือแม้แต่เงินและสิ่งของบริจาค ส่วนใหญ่จะได้รับจากสภาลมหายใจ ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ นำน้ำดื่ม อาหารแห้ง และอุปกรณ์ดับไฟป่ามาให้ทีมอาสาดับไฟป่า ส่วนสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดเชียงใหม่ ได้สบทบทุนเงินบริจาคกว่า 10,000 บาท ซึ่งได้นำไปใช้ประกอบอาหารให้กับทีมดับไฟป่าทั้งสามมื้อตลอดหลายสัปดาห์ กระทั่งสถานการณ์ไฟป่าคลี่คลาย


นายอำเภอเชียงใหม่เรียกสอบ “ฌอน” ปมเรี่ยไรบริจาค

นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ชี้แจงเรื่องการตรวจสอบการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือในการดับไฟป่าในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ของ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 1 พฤษภาคม เป็นเงินกว่า 870,000 บาท  พบว่านายฌอนไม่ได้มายื่นขออนุญาตเรี่ยไรตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร โดยมีโทษปรับซึ่งเป็นเพียงคดีลหุโทษ จึงอยากให้ออกมาชี้แจงให้สังคมเกิดความกระจ่าง และเชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ดี

ตำรวจเชียงใหม่ยังไม่พบผู้เสียหายจากปมบริจาคเข้าร้องทุกข์

เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีที่ปรากฏภาพถ่ายคู่กับนายฌอนว่า เป็นภาพที่ถ่ายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฌอน มาพบเพื่อหารือเรื่องการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเข้าทำงานในโครงการฟาร์มตัวอย่าง ทราบว่านายฌอนเปิดรับบริจาคเงินทางสื่อออนไลน์ จึงได้แนะนำให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ยังไม่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ หากผู้บริจาคเงินเห็นว่าได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้

ขณะที่ในโลกออนไลน์ยังเปิดเผยข้อมูลของนายฌอน พบว่ามีร้าน บ้านพัก และร้านกาแฟอยู่ที่เชียงใหม่ ชื่อร้าน “เต่าคาเฟ่ แอนด์ คอมมิวนิตี้” ย่านถนนระแกง พบว่าร้านปิดตัวชั่วคราวตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เริ่มระบาด ติดป้ายประกาศหน้าร้านว่า “ยังไม่มีกำหนดเปิด” และไม่สามารถติดต่อกับฌอนได้

ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า นายฌอนไม่เคยมาพบ และไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาค ทราบแต่ว่าเคยร่วมกิจกรรมจิตอาสากับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์หลายครั้ง และนายฌอน เคยมาร่วมกิจกรรมปลูกป่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานปลูกป่าที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม ซึ่งในวันดังกล่าวนายฌอนได้ร่วมปลูกต้นไม้ และมอบเครื่องเป่าลม 2 เครื่อง ให้กับหน่วยงานราชการ


แจงปมเงินบริจาค “ฌอน” ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ชี้แจงกับสื่อมวลชน กรณีนายฌอนเปิดรับเงินบริจาค เนื่องจากเรื่องนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมากที่ต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดรายบุคคลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เสียภาษีได้ ส่วนรายได้ที่เกิดในปี 2563 นิติบุคคลจะยื่นเสียภาษีได้ในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นกรมสรรพากรถึงจะตรวจสอบการยื่นภาษีได้ว่าครบถ้วนและถูกต้องหรือไม่

ด้านนางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ส่วนเงินบริจาคที่ได้รับมานั้นจะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ ในกรณีนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะผู้ที่จะได้รับการลดหย่อนภาษี ต้องจดทะเบียนเป็นตัวแทนหน่วยรับบริจาค และต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจน แต่ในส่วนนี้เป็นการเปิดบริจาคโดยใช้บัญชีของตนเอง ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายนำไปลดหย่อนภาษี. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แกนนำอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพยันไม่เคยพบ “ฌอน บูรณะหิรัญ”

 ► รับบริจาคออนไลน์ ผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]