จับแก๊งฉ้อโกง ลวงเหยื่อทำเอกสารปลอมขอกู้ธนาคาร

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.- กองปราบจับแก๊งฉ้อโกง ลวงเหยื่อทำเอกสารปลอมขอกู้ธนาคาร คิดค่าใช้จ่ายร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ สุดท้ายกู้ไม่ได้จริง พบผู้เสียหายกว่า 3,000 ราย


พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงจับกุม น.ส.นุชนาฏ เอมสุ่น อายุ 27 ปี น.ส.นางนวล จันทร์ตัง อายุ 39 ปี ผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม”,น.ส.วิริน ไหกระโทก อายุ 43 ปี และนายกุณฑล บุญยะจิตติ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและแสดงตนเป็นบุคคลอื่นโดยทุจริต และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ”  โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ที่บ้านพัก ในอำเภอบางละมุง  จ.ชลบุรี 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า คดีนี้มีประชาชนผู้เสียหายกว่า 3,000 ราย ทั่วประเทศ ร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบและตำรวจสืบสวนนครบาลว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาที่อ้างว่าสามารถติดต่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารปล่อยเงินกู้หรือทำสินเชื่อกับธนาคาร หรือทำเอกสารเพื่อประกอบการยื่นกู้ได้ โดยมีค่าใช้จ่าย ประมาณร้อยละ 10 ของเงินที่ต้องการจะกู้ บางรายมีค่าดำเนินการสูงถึงหลักแสนบาท


พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อ กลุ่มผู้ต้องหาจะโฆษณาลงในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ เมื่อติดต่อไปก็จะขอชื่อ-นามสกุลของเหยื่อไปทำเอกสารปลอม เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัท และรายการเดินบัญชีธนาคาร ก่อนส่งไฟล์เอกสารปลอมไปที่อีเมล์ของเหยื่อ เมื่อเหยื่อนำเอกสารไปยื่นกู้ที่สถาบันการเงินต่างๆ ก็ถูกปฏิเสธ ไม่อนุมัติเนื่องจากเป็นเอกสารปลอม

ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่กันเป็นขบวนการ ทำหน้าที่คอยรับโทรศัพท์ เปิดบัญชีรับโอนเงิน และทำเอกสาร ทั้งนี้ไม่พบว่าคนร้ายเคยทำงานกับธนาคารมาก่อน แต่เป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งได้ก่อเหตุกันมานานหลายปีแล้ว 

นายปราโมทย์ ลลิตกิตติ  ประธานชมรมต่อต้านการทุจริตบัตรเครดิต กล่าวว่า การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเครดิตต่างๆ ของธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นมีขั้นตอนมากมาย ซึ่งการอนุมัติวงเงินสูงนั้นยิ่งทำให้การทำเรื่องขอกู้ไม่ง่าย ฝากเตือนประชาชนว่า การนำเอกสารปลอมมายื่นกับสถาบันการเงินก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้พบว่าสลิปเงินเดือนที่คนร้ายปลอมขึ้นมานั้นมีลักษณะเป็นสลิปคาร์บอน ระบุรายรับรายจ่ายเหมือนของบริษัทจริง แต่ยังมีจุดต้องสงสัยหลายอย่างที่ทำให้ธนาคารจับผิดได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมการปลอมเอกสารเดิมๆ ไม่มีวิธีการแปลกใหม่ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง