“พล.ต.อ.อัศวิน” ลุยตรวจระบบระบายน้ำ กทม.รับมือฤดูฝน

กทม.28 พ.ค.-ผู้ว่าฯ กทม.นำคณะ ลุยตรวจระบบระบายน้ำพื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมพร้อมรับมือหน้าฝนปีนี้ แก้ปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วม เช่น ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ , ช่วงแยกรัชโยธิน-แยกเกษตร , ถนนวิภาวดีรังสิต และบริเวณปากซอยสุทธิพร 2 เขตดินแดง



พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยผู้บริหารจากสำนักระบายน้ำ ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe Jacking) ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ,ระบบระบายน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแยกรัชโยธิน-แยกเกษตร โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต  และโครงการก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำ  ใต้ดิน (Water Bank) บริเวณปากซอยสุทธิพร 2 เขตดินแดง 


นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า  ช่วงถนนพหลโยธิน ช่วงรอบแยกเกษตรศาสตร์ มีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคมากมาย ส่งผลกระทบทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลง เมื่อฝนตกหนักจึงเกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง แก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างระบบระบายน้ำด้วยวิธีดันท่อลอด (pipe jacking) พร้อมก่อสร้างบ่อสูบน้ำบริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ ตอนลงคลองลาดพร้าว กำลังสูบ 4.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณดังกล่าวได้ 

ส่วนจุดที่ 2 ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชโยธิน-แยกเกษตร ฝาท่อระบายน้ำถูกปิดทับ  ได้ขอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ 


ขณะที่จุดที่ 3 สถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณคลองบางซื่อ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต  ซึ่งเดิมถนนอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมทางหลวง ต่อมาเมื่อปี 2542 กรมทางหลวงมอบให้ กทม.ดูแลรับผิดชอบระบบระบายน้ำบริเวณคูน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตทั้ง 2 ฝั่ง โดยสถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตที่เปิดใช้งานมาอย่างยาวนาน อัตรากำลังสูบน้ำที่มีอยู่เดิม 59 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงปรับปรุงสถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 15 สถานี โดยดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จ 9 สถานี อัตรากำลังสูบน้ำ รวม 90 ลูกบาศก์เมตร/วินาที 

สำหรับสถานีสูบน้ำ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง อาทิ สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อขาเข้าฝั่งใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะเพิ่มอัตรากำลังสูบน้ำเป็น 92 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อโครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตแล้วเสร็จทั้งหมด 15 สถานี จะเพิ่มอัตรากำลังสูบน้ำจาก 92 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 110 ลูกบาศก์เมตร/วินาที สามารถระบายน้ำลงสู่คลองบางซื่อ คลองลาดยาว คลองบางเขน คลองวัดหลักสี่ ระบายออกสู่คลองเปรมประชากร  และอีกส่วนหนึ่ง ระบายออกคลองลาดพร้าว  ตลอดจนช่วยรองรับน้ำบริเวณคูน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเข้าสู่ระบบอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.00 เมตร ความยาว 6.40 กิโลเมตร กำลังสูบ 60 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดเครื่องยนต์เสริม 10 เครื่อง กำลังสูบน้ำรวม 20 ลูกบาศก์เมตร/วินาที คลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิต และติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 แห่ง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝนในปีนี้

และจุดที่ 4 จุดก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (water bank) บริเวณปากซอยสุทธิพร 2 ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมถึงป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังถนนอโศกดินแดง ช่วงจากสี่แยกประชาสงเคราะห์  ถึงซอยขวัญพัฒนา  และพื้นที่ใกล้เคียง รูปแบบการทำงานของบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) จะเริ่มจากการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ไว้ใต้ดิน ลึกประมาณ 8-9 เมตร เพื่อรองรับน้ำฝนในช่วงเวลาที่ฝนตกเข้ามากักเก็บไว้ที่บ่อเก็บน้ำ  โดยการเชื่อมท่อระบายน้ำเข้ากับท่อระบายน้ำเดิม หรืออาจจะวางท่อระบายน้ำใหม่จากบ่อเก็บน้ำไปยังคลองโดยตรง 

พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เมื่อฝนหยุดตกและระดับน้ำในคลองลดต่ำลง จะระบายน้ำออกจากบ่อเก็บน้ำลงสู่คลองในพื้นที่  รวมถึงสามารถเร่งระบายน้ำจากบ่อเก็บน้ำ เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและปริมาณน้ำเกินความจุของบ่อเก็บน้ำ กล่าวคือบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน(Water Bank) สามารถใช้เป็นทั้งแก้มลิงรับน้ำฝนและใช้เป็นบ่อสูบน้ำกรณีที่ฝนตกหนักอย่างต่อ เนื่อง

นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมือน้ำฝนปีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ทั้งการขุดลอกคูคลอง  ลอกท่อระบายน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วม โดยปีนี้จุดอ่อนน้ำท่วมลดลงจากปีที่แล้วจาก 17 จุดเหลือ 14 จุด ขณะที่การแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้องที่อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ปีนี้เชื่อว่าการระบายน้ำจะดีขึ้น เช่น ถ้าฝนตก 60-70 มิลลิเมตร สามารถระบายน้ำได้ปกติ หากฝนตกหนัก 100 มิลลิเมตร มีน้ำท่วมขังแน่ๆ แต่เดิมใช้เวลาระบายน้ำ 4-5 ชั่วโมงปีนี้จะระบายได้เร็วขึ้นเหลือ1-3 ชั่วโมง  โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กทม.ได้พัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งดีขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ50 .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]