กมธ. ดีอีเอส ระบุถึงเวลายกเครื่องระบบเทคโนโลยีของสภา

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. -กมธ. ดีอีเอสชี้ ถึงเวลายกเครื่องเทคโนโลยีของสภาให้ทันสมัยรองรับสถานการณ์ในอนาคต ทั้งระบบการประชุม Teleconference-เก็บข้อมูลและ Data Recovery เผย เตรียมหารือ หลังเปิดสภา ลั่น รัฐสภาต้องทันสมัยและปลอดภัย


น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมาทำให้เราเห็นว่า การทำงานหลายๆ อย่างของสมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่สภาต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง สภาต้องนำวิธีการทำงานใหม่ ๆ เข้ามาเพื่ออนาคต เพราะที่ผ่านมาเราต้องยอมรับความจริงว่าการประชุมต่าง ๆ เช่น คณะกมธ. หลายคณะ ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการประชุมและติดต่อสื่อสาร เช่น วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ รวมถึงการบันทึกการประชุมที่เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นเรื่องต่างๆ เหล่านี้ควรต้องเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องศึกษาพิจารณาต่อไป เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าสถานการณ์ หรือภัยคุกคามจะเปลี่ยนไปในวันไหน ส.ส.หลายคนต้องลงพื้นที่ อยู่ในต่างจังหวัด การจะเดินทางเข้ามาเพื่อประชุมอาจเดินทางไม่ได้ ไม่สะดวกหรือเกิดความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการประชุม การปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อเป็นการรองรับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอนาคตด้วย  นอกจากนี้สภาควรมีระบบแบ็คอัพข้อมูลสำรองไว้ในกรณีภาวะฉุกเฉินหรือระบบล่ม ทำเป็นศูนย์ข้อมูลแบ็คอัพ สามารถกู้ข้อมูลได้ในกรณีที่ข้อมูลหาย หรือที่เรียกกันว่า Data Recovery แต่วันนี้ทางสภายังไม่มีความพร้อม ดังนั้นทางกมธ.ดีอีเอส จะประชุมเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาระบบต่อสภา

ขณะที่พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และรองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า วันนี้ระบบการทำงานต่างๆ ของรัฐสภา ต้องมีการอัพเกรดและอัพเดทให้เท่าทันโลกอนาคต เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ การทำงานภายในสภาโดยเฉพาะการประชุม คณะกมธ.ชุดต่างๆ ต้องมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด เราต้องรักษาระยะห่าง และไม่มีการรวมคนจำนวนมากไว้ในห้อง ระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จึงเข้ามามีบาทบาทเป็นอย่างมากในการทำงานของกมธ. ดังนั้นสภาควรต้องพัฒนาระบบต่างๆ เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบโทรคมนาคม ระบบไอทีต่างๆของสภาให้รองรับการทำงานในระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆด้วย ที่สำคัญคือจะต้องมีระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber security)ด้วย ซึ่งหากเราลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้จะช่วยให้การทำงานของทั้ง ส.ส. ส.ว. จะง่ายขึ้น ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้รวดเร็วขึ้น วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต


ด้านผศ.ดร.จิรศิลป์ จยาวรรณ จากภาควิชาวิศวกรรมอิเล็คทรอนิกส์และโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า การพัฒนาระบบไอทีของสภาเป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อม ทั้งระบบกาประชุม Teleconference ระบบการเก็บข้อมูล Data Recovery แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้ระบบการรักษาความปลอดภัยของสภาในภาพรวมคือทั้งที่เป็นกายภาพ (Physical security) และ ข้อมูล (Information) โดยการรักษาความปลอดภัยในด้านข้อมูล เช่น การรักษาความลับ ความสมบูรณ์ของข้อมูล ความง่ายในการเรียกใช้ข้อมูล และความเป็นเอกภาพของข้อมูล แต่ความสำคัญและความท้าทายที่การทำงานของระบบความปลอดภัยของข้อมูลในรัฐสภาที่กำลังดำเนินการอยู่คือ BCP (Business Continuity Plan) หรือ DRP (Disaster Recovery Plan) เนื่องจากมีการย้ายที่ตั้งใหม่แต่ระบบการทำงานต้องมีความต่อเนื่อง BCP จึงเป็นแผนสำคัญที่ขาดไม่ได้ และระบบข้อมูลของรัฐสภามีความสำคัญระดับประเทศจึงจำเป็นต้องมีแผนจัดเก็บข้อมูลสำรองในมาตรฐานที่ดีและปลอดภัยพร้อมดำเนินการได้ทันทีที่ระบบหลักล่มหรือเกิดปัญหา นอกจากนี้ยังมีประเด็น ที่น่าสนใจ คือ ในระยะอันใกล้ควรมีการประยุกต์ใช้ IOT และ AI  เข้ามาช่วยในการดำเนินงาน รวมถึงเทคโนโลยี 5G ก็เป็นสิ่งที่รัฐสภาควรให้ความสนใจและให้ความสำคัญในการนำมาประยุกต์ หรือปรับปรุงทั้งในเรื่องของ การติดต่อสื่อสาร การสร้างโครงข่ายเฉพาะ (Local 5G) เพื่อการบริหารความปลอดภัย และเป็นช่องทางในการติดต่อเฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย