ผบช.ภ.4 ลงพื้นที่เร่งคดีครูข่มขืน นร. เผยพบหลักฐานสำคัญคลิปแอบถ่าย

มุกดาหาร 10 พ.ค.- ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่เร่งรัดคดี 5 ครู และ 2 ศิษย์เก่าก่อเหตุกระทำชำเรานักเรียนหญิงชั้น ม. 2 และ  ม.4 โดยพบหลักฐานสำคัญเป็นคลิปแอบถ่ายที่อยู่ในโทรศัพท์ของเหยื่อ และปรากฏหลักฐานกลุ่มครูให้เงินเหยื่อ หลังร่วมหลับนอน ครั้งละ 200-500 บาท ล่าสุด ตำรวจลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุซ้ำ พบชิ้นส่วนถุงยางอนามัย


พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ สภ.ผึ่งแดด เพื่อติดตามคดีครู 5 คน พร้อมศิษย์เก่า 2 คนของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ดงมอน อ.เมืองมุกดาหาร ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกระทำชำเราในลักษณะรุมโทรม “เด็กหญิงเอ” อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 รวมถึงมีเหยื่ออีกคน คือ “นางสาวบี” อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน โดยเหตุเกิดขึ้นที่บ้านพักครูในโรงเรียนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 จนถึงเดือนมีนาคม 2563


ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า หลังจากที่ครอบครัวเด็กแจ้งความ จึงนำตัว “เด็กหญิงเอ” ไปตรวจร่างกายทันที ก่อนขยายผลจากการสอบปากคำโดยสหวิชาชีพพบว่า “นางสาวบี” ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 คนจริง จึงมีการสอบสวนขยายผลออกหมายจับทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนได้รับการประกันตัวในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้ว 4 ปาก พร้อมกับส่งหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอแอบถ่ายขณะเกิดเหตุ รวมถึงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ที่จุดเกิดเหตุ ส่งตรวจหลักฐานที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานแล้ว


แยกสำนวนดำเนินคดี 2 เหยื่อ และแยกกรรมตามวันก่อเหตุ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ระบุว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่เกี่ยวข้องกับค้ามนุษย์ แต่พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะให้เงินเหยื่อครั้งละ 200-500 บาท หลังร่วมหลับนอนกันเสร็จ ขณะที่คลิปวิดีโอไม่มีการเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะ จึงยังไม่สามารถเพิ่มข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และเป็นคลิปวิดีโอที่ได้มาจากโทรศัพท์ของเหยื่อทั้งหมด ส่วนหลักฐานแชทจาก Facebook ระหว่างผู้ต้องหากับเหยื่อถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญในคดีเช่นกัน และจากการสอบถามเหยื่อเบื้องต้นพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่มีการดื่มแอลกอฮอล์  โดยเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะมีการปรึกษานักกฎหมายก่อนชิงเข้ามอบตัวสู้คดี และขอให้การในชั้นศาลทั้ง 7 คน

ทั้งนี้ สำนวนคดีจะต้องแยกเป็น 2 สำนวน คือ คดีของ “เด็กหญิงเอ” ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนอีกสำนวนคือ “นางสาวบี” ที่มีการแจ้งความดำเนินคดี และขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกทั้งหมดมาแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมขยายผลเพิ่มเติมว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ นอกจากนี้จะต้องมีการแยกดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ตามพฤติการณ์ผู้ต้องหาเพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับอัตราโทษสูงสุด เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาบางคนก่อเหตุหลายครั้ง

สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน พบว่าจะมีผู้ต้องหาที่ 1 คือ “ครูวิพจน์” เป็นตัวหลัก โดยครั้งแรกเมื่อมีนาคมปี 2562 ได้มีการหลอกเหยื่อ “เด็กหญิงเอ” ไปกระทำชำเราที่ห้องพักครู จากนั้นก่อเหตุเรื่อยมาเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง

ต่อมาเริ่มมีการรวมกลุ่มก่อเหตุ ทั้งในเดือนธันวาคมปี 2562 ที่มีการชักชวนกลุ่มเพื่อนครูไปร่วมกระทำชำเรา “เด็กหญิงเอ” ต่อเนื่องถึงเดือนมกราคม 2563 ที่มีการนัด “เด็กหญิงเอ” มากับ “นางสาวบี” ก่อนกระทำชำเราร่วมกับเพื่อนครู 3 คน

จากนั้นต้นเดือนกุมภาพันธ์ “ครูวิพจน์” นัด “เด็กหญิงเอ” ไปพบและร่วมกับผู้ต้องหาอีก 3 คน กระทำชำเรา เช่นเดียวกับปลายกุมภาพันธ์พาเหยื่อไปกระทำชำเราที่ห้องเรียนคณิตศาสตร์ กระทั่งครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน กระทำชำเราเหยื่อ 2 คนที่บ้านพัก ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดีในวันเดียวกัน

แก๊งครูหื่นทั้ง 7 คน ถูกแจ้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีในลักษณะรุมโทรมและพรากผู้เยาว์ โทษตามมาตรา 277 ของประมวลกฎหมายอาญา หากเป็นกระทำชำเราเด็ก จะถูกจำคุก 4-20 ปี และปรับ 80,000-400,000 บาท แต่เมื่อมีการรุมโทรมจะมีโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต ส่วนข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ จะมีโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับ 4,000-20,000 บาท

ทั้งนี้ ตรวจสอบแนวทางการดำเนินคดีพบว่า เมื่อมีการแยกกรรมและวาระในการก่อเหตุ เท่ากับว่าแต่ละคนจะได้รับโทษตามที่ก่อเหตุแต่ละครั้ง โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งร่วมก่อเหตุทุกครั้งจะได้รับโทษมากที่สุด แต่ไม่เกิน 50 ปี เพราะมาตรา 91 ระบุว่า หากเป็นโทษหนักสุดจำคุกเกิน 10 ปีขึ้นไป เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจะจำคุก 50 ปี ยกเว้นว่าศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต

ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุซ้ำ พบชิ้นส่วนถุงยางอนามัย

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร นำชุดสืบสวนและร้อยเวรเจ้าของคดีครูและศิษย์เก่าของโรงเรียนรวม 7 คน กระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิง 2 คนพร้อมผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่เกิดเหตุที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ดงมอน อ.เมืองมุกดาหาร โดยทั้งหมดมี 4 จุด ประกอบด้วยห้องเรียน สนามกีฬาในร่มที่ใช้เป็นสนามแข่งฟุตซอล และวอลเลย์บอลด้านหลังของสนามมีห้อง 2 ห้อง

จากนั้นได้ไปสำรวจบ้านพักครูจำนวน 2 หลัง โดยหลังแรกมี 2 ชั้น ชั้นล่าง 1 ห้อง ส่วนชั้นบน 4 ห้องถูกล็อกไว้แล้ว ส่วนอีกหลังเป็นบ้านปูนครึ่งไม้ ด้านบนทำด้วยไม้ ซึ่งถูกเด็กหญิงกล่าวอ้างว่า ครูคณิตฯ วัย 35 ปี ก่อเหตุกระทำชำเราบ่อยที่สุด โดยจากการสังเกตรอบบ้าน พบชิ้นส่วนถุงยางอนามัยและขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล้า-เบียร์กองทับกันเป็นจำนวนมาก

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ลงมาเพื่อตรวจสอบซ้ำ เพราะตอนนี้มีอีก 1 คดีที่เพิ่มเข้ามา คือ คดีของ “น.ส.บี” อายุ 16 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]