แนะจ่ายค่าไฟฟ้า กฟภ.เริ่ม 8 พ.ค. กฟน.เริ่ม 12 พ.ค.

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. -แนะบิลค่าไฟฟ้า เม.ย.ชะลอจ่าย เหตุ 2 การไฟฟ้าจะปรับปรุงส่วนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน (มี.ค.-พ.ค.) โดย  กฟภ.ปรับปรุงเสร็จ 8 พ.ค., กฟน.12 พ.ค. ย้ำเดือนฐานใช้บิลค่าไฟฟ้า ก.พ.เป็นหลัก


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ร่วมแถลงแนวทางปฏิบัติตามมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 โดยยึดบิลค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์เป็นฐานคำนวณ และกำหนดส่วนลดในเดือนมีนาคม-พฤษภาคมตามสัดส่วนที่กำหนด เช่น หากใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 800 หน่วย ส่วนเกินเดือนฐานจะใช้ไฟฟ้าฟรีเท่ากับจ่ายไฟเท่าบิลเดือนกุมภาพันธ์ 


ส่วนบิลค่าไฟฟ้าเดือนเมษายนผู้ที่ยังไม่จ่าย แนะนำผู้ใช้ไฟฟ้าพื้นที่ กฟภ.จ่ายตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม, ลูกค้า กฟน.ให้จ่ายตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นไป ใช้บิลเดิมไปยื่นจ่ายแล้ว 2 การไฟฟ้าจะปรับปรุงส่วนลดไปโดยปริยายในระบบออนไลน์  โดยจะไม่มีการออกบิลค่าไฟฟ้าใหม่แต่อย่างใด  ส่วนผู้ที่จ่ายค่าไฟฟ้าไปแล้วจะคืนเป็นส่วนลดเดือนต่อเดือนในบิลเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งในส่วนผู้ที่ยังไปจ่ายค่าไฟฟ้าหรือค้างจ่าย ทั้ง 2 การไฟฟ้าไม่มีนโยบายตัดไฟฟ้าในช่วงการระบาดโควิด-19 ส่วนมาตรการลดค่าไฟร้อยละ 3 เพิ่มเติมนั้น จะเป็นการลดส่วนเพิ่มอีกในบิลค่าไฟเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือมาตรการดังกล่าวทั่วประเทศกว่า 22 ล้านราย ในพื้นที่ 77 จังหวัด รวมกว่า 23,600 ล้านบาท

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า หน่วยที่ใช้ในแต่ละเดือนสามารถตรวจสอบจากใบแจ้งค่าไฟฟ้าตามรอบการจดหน่วยดังนี้


– หน่วยเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นฐานในการอ้างอิง ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563

▪ หน่วยเดือนมีนาคม 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 มีนาคม ถึงวันที่ 13 เมษายน 2563

▪ หน่วยเดือนเมษายน 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2563

▪ หน่วยเดือนพฤษภาคม 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2563

โดยตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 สามารถนำใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดิมที่ยังไม่ได้ระบุส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการนี้ไปชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลดโดยอัตโนมัติ ส่วนกรณีชำระค่าไฟฟ้าไปแล้ว โดยที่ยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนลด MEA จะคืนเงินโดยหักลดในค่าไฟฟ้าเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้าและสิทธิ์ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการนี้ได้ที่ www.mea.or.th ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

“เดือนฐาน ก.พ.ขอให้ผู้ใช้ดูวันจดเลขอ่านเป็นหลัก.. เทียบเดือนต่อเดือนเป็นหลัก ซึ่งการใช้บิลเดือนกุมภาพันธ์เป็นฐานก็นับเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เพราะมาตรการ WFH นั้น เริ่มเดือนมีนาคมเป็นหลัก ของภาครัฐเริ่ม 18 มีนาคม ทำให้ยอดส่วนลดมีเพิ่มขึ้น เพราะเดือนกุมภาพันธ์บ้านยังใช้ไฟต่ำ” นายจาตุรงค์ กล่าว

นายวิโรจน์ บัวคลี่ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในฐานะโฆษก PEA กล่าวว่า หากผู้ใช้ไฟฟ้าชำระค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม – เมษายน 2563 ไปแล้ว PEA จะดำเนินการคืนค่าไฟฟ้าโดยหักคืนเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะครบตามยอดเงินที่ได้ชำระมาแล้ว ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 สามารถชำระได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และตรวจสอบค่าไฟฟ้าผ่าน www.pea.co.th, PEA Smart Plus, 1129 PEA Call Center และสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ 

สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 ผ่านบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต ระบบจะตัดบัญชี/บัตรเครดิต ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ด้วยยอดเงินที่ปรับปรุงตามมาตรการแล้ว

ส่วนการใช้ไฟ้ฟ้า ทั้ง 2 การไฟฟ้ายอมรับว่าภาพรวมลดจากจากผลกระทบโควิด-19 แต่หากแยกเป็นกลุ่มแล้วพบว่ากลุ่มบ้านเรือนใช้เพิ่มขึ้นจากมาตรการทำงานที่บ้าน หรือWork form Home โดยไตรมาส1/2563 ลูกค้าบ้าน PEA  ใช้ไฟฟ้าเพิ่มร้อยละ 8 ลูกค้าอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 2-3

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 โดยให้สิทธิ์ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภทที่ 1.1 , 1.2 และ 1.3 ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน แยกดังนี้

1.ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี เป็นเวลา 3 เดือน ของค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2563

2.ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.2 และประเภท 1.3 จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน ในค่าไฟฟ้าของเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2563 โดยเทียบหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนฐาน

2.1 หากมีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหน่วยเดือนฐาน คิดค่าไฟฟ้าตามที่ใช้จริง

2.2 หากมีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 800 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับเดือนฐาน

2.3 หากมีการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 801 – 3,000 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยเดือนฐาน บวก 50% ของจำนวนหน่วยที่เกินจากเดือนฐาน

2.4 หากมีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 3,000 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยเดือนฐาน บวก 70% ของจำนวนหน่วยที่เกินจากเดือนฐาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]