วัชระยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้กำลังใจ-เร่งแก้ 4 ปัญหา

ทำเนียบฯ 29 เม.ย.- วัชระให้กำลังใจนายกฯสู้ศึกโควิด-19 ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เร่งทำ 4 เรื่องใหญ่ เยียวยา 5 พันคนไทยถ้วนหน้า-ลดค่าน้ำประปาทั่วประเทศเท่ากัน-ห้ามต่อเวลาใช้สารพิษพาราควอต-ยกเลิกCPTPP


เมื่อเวลา 13.40 น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กำลังใจปฎิบัติงานในภารกิจสู้โควิด-19 ปราบการทุจริตและขอให้ลดค่าน้ำประปาให้คนต่างจังหวัดทั่วประเทศเท่ากับคนกรุงเทพฯและให้คงมติคณะรัฐมนตรีไม่ขยายเวลาให้สารพิษพาราครอต  คลอร์ไพริฟอส อีกต่อไป

สำหรับการให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่มีข่าวว่านักการเมืองฝั่งรัฐบาลกำลังแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีและจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในประชาชนว่าผู้นำรัฐบาลจะมีพลังในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และปัญหาอื่น ๆ ของประเทศได้ เพราะรัฐบาลขาดเอกภาพ แตกความสามัคคี


ดังนั้น จึงต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี นำทัพแก้ไขปัญหาโควิด-19 เร่งแจกเงินเยียวยาให้ประชาชน 5,000 บาท อย่างทั่วถึงครบทุกคน และปราบการทุจริตอย่างเด็ดขาดต่อไป ซึ่งในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน บนความเป็นความตายของประชาชนเช่นนี้ นักการเมืองควรมีสำนึก เลิกแก่งแย่งเก้าอี้ และมุ่งทำงานช่วยเหลือประชาชนให้พ้นภัยโควิด-19 เพราะประชาชนนับล้าน ๆ คนกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องแทนประชาชนคือ

1.ขอให้สั่งการให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ลดค่าน้ำประปาให้คนต่างจังหวัดทั่วประเทศให้เท่าเทียมกับคนกรุงเทพฯ ตามที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้การประปานครหลวง (กปน.) ลดค่าน้ำประปา 20% พร้อมมาตรการ 4+1 ใช้น้ำฟรี 10 คิวแรก ทุกครัวเรือน ลดค่าน้ำประปา 20% ตั้งแต่คิวที่ 11 ขยายระยะเวลาชำระค่าน้ำเป็น 6 เดือน สำหรับกิจการโรงแรมและที่พักอาศัย ยกเว้นการตัดน้ำนาน 6 เดือน และเพิ่มอีก 1 มาตรการคือ การคืนเงินประกันการใช้น้ำทุกราย 

2. ขอให้เร่งแจกเงินจากกรณีโควิด-19 ให้ประชาชนคนละ 5,000 บาท โดยเร็วที่สุด และให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ หากล่าช้าประชาชนจะเดือดร้อนมากถึงขั้นฆ่าตัวตายมากขึ้น 


3. ขอให้คงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ในการขยายเวลาให้สารพิษพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 นี้ ต้องไม่ขยายเวลาให้สารพิษทำลายแผ่นดินไทยอีกต่อไป มติคณะรัฐมนตรีนั้นจะขยายเวลาเอาใจนายทุนโดยไม่ใส่ใจประชาชนไม่ได้ โดยสั่งการให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะกรรมการวัตถุอันตรายเลิกสนับสนุนการขยายเวลาสารพิษทันที และโปรดสั่งห้ามการออกใบสำคัญขึ้นทะเบียนใบอนุญาตผลิตวัตถุอันตรายและการต่ออายุวัตถุอันตรายเพิ่มเติม ห้ามออกใบอนุญาตหรือต่ออายุวัตถุอันตรายอีกเด็ดขาด

4.สั่งการให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบให้ยกเลิกการนำประเทศเข้าร่วมกลุ่ม“ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก”หรือ Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership (CPTPP)ทันที เพราะจะมีการผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ ค่ายามีราคาแพงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรและประชาชนทั้งประเทศ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส