GC – ไทยเบฟ ผนึกกำลังกู้วิกฤติ COVID-19

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – GC – ไทยเบฟผนึกกำลังกู้วิกฤติ COVID-19 ส่งมอบเจลแอลกอฮอล์ 1 ล้านขวด กระทรวงสาธารณสุข และ อสม.ทั่วประเทศ


ไทยเบฟ และ GC Group สานพลังร่วมกันมอบเจลแอลกอฮอล์ภายใต้ แบรนด์เจลโค  (GelCo) ที่ผ่านมาตรฐาน อย. โดย GC Group สนับสนุนผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ผลิตได้ในประเทศลดการนำเข้า ส่วนไทยเบฟ สนับสนุนผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ เพื่อร่วมกันผลิตเจลแอลกอฮอล์ 1 ล้านขวด  มอบให้กระทรวงสาธาณสุข เพื่อส่งต่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นนักรบด่านหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19    

นับว่าเป็นการสานพลังความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง 2 บริษัทยักษใหญ่ของประเทศไทยที่ต่างก็เป็นองค์กรที่ถูกจัดอันดับให้เป็นองค์กรต้นแบบแห่งความยั่งยืนระดับโลก ที่มีการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI  บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่ได้ผนึกกำลังกันออกมาร่วมกู้วิกฤต COVID-19  ด้วยการสนับสนุน  Ethyl Alcohol 72% ในรูปแบบ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สำหรับพกพา ขนาด 50 ซีซี จำนวน 1,000,000 ขวด เพื่อส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขแจกจ่ายไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ทั่วประเทศ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รับมอบเจลแอลกอฮอล์ดังกล่าวจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากให้ทุกส่วนร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งในวันนี้ก็เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจาก COVID-19 ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที      โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสนับสนุนเจลแอลกอฮอล์จำนวน 1,000,000 ขวด ให้กับบุคลาการทางการแพทย์ และ อสม.ทั่วประเทศ ซึ่งเค้าจะได้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ได้อย่างปลอดภัย ”

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของ GC ที่จะเป็นบริษัทชั้นนำด้านเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต (Chemistry for Better Living) ได้จับมือร่วมกันกับ กลุ่ม บริษัท ไทยเบฟ พันธมิตรสำคัญรายใหญ่ของ GC ทั้งด้านกลยุทธ์ (Strategic Partner) และการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability) จัดทำเจลแอลกอฮอล์ ภายใต้แบรนด์เจลโค   GelCo โดยเจลแอลกอฮอล์นี้ผลิตจากวัตถุดิบสำคัญในประเทศ ซึ่ง GC ได้สนับสนุนวัตถุดิบหลักสำคัญ จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ ไตรเอทานอล  เอมีน (Triethanolamine: TEA) ซึ่ง GC เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวในประเทศไทย มีคุณสมบัติในการยึดเกาะกับผิวหนังของคน ทำให้คงประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อได้ยาวนาน และ กลีเซอรีน (Glycerine) ระดับฟาร์มาซูติคอลเกรด (Pharmaceutical Grade) มีคุณสมบัติในการทำให้อนุภาคไอออนนาโนเป็นสารแขวนลอยในน้ำยา ไม่เกิดการตกตะกอน ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น และไม่ระคายเคืองผิว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการสนับสนุนอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่องนับจากเกิดวิกฤต ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่ดูแลป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ เสื้อกาวน์ ชุดอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ ตู้ฆ่าเชื้อโควิเคลียร์ หน้ากากอนามัยป้องกันใบหน้า (Face Shield) เป็นต้น ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศจำนวน 77 จังหวัด กว่า 900 โรงพยาบาลและสถานพยาบาล


นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายพัฒนาความเป็นเลิศ และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตระหนักและให้ความสำคัญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เป็นอย่างยิ่ง และได้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยควบคุม ป้องกัน และลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส       COVID-19 ดังจะเห็นได้ว่าไทยเบฟได้มีการส่งมอบแอลกอฮอล์ให้กับโรงพยาบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถานบริการสาธารณสุข 76 จังหวัด ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในส่วนของแอลกอออล์ได้มีการส่งมอบไปแล้วกว่า 6 แสนลิตร ที่ยังไม่รวมถึงความช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ ของบริษัทในกลุ่มไทยเบฟ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมอบเงินบริจาค มอบอาหารและน้ำดื่ม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ

สำหรับครั้งนี้เป็นการมอบ Ethyl Alcohol 72% ในรูปแบบเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สำหรับพกพาขนาด 50 ซีซี  จำนวน 1,000,000 ขวด เพื่อส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจกจ่ายไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญร่วมกันกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ได้มีการดำเนินงาน  ต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาความยั่งยืน 17 ข้อ ขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ไทยเบฟ จึงได้เชิญชวน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่างได้รับการจัดอันดับเป็น World Industry Leaders Down Jones Sustainability Index (DJSI) มาร่วมในการสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อที่จะร่วมกันกู้วิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐ และเอกชนที่จะบรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืนขององค์การสหประชาติ ในข้อ 3.Good Health and Well-being การมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งทั้ง ไทยเบฟ และ GC หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้ จะเป็นหนึ่งแรงหนุนเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และเชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว”

นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ร่วมผนึกกำลังด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน ที่ต้องการช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติการคัดกรองผู้ป่วยระดับตำบล ซึ่งช่วยดูแลประชาชนในชุมชนให้ปฏิบัติตามระเบียบ ให้อยู่ในมาตรการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ส่งผลให้ ณ ขณะนี้ ประเทศไทยมีการดูแลและควบคุมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง  และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้ได้เร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย