ศบค.แถลง มีผู้ป่วยใหม่ 29 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย

ทำเนียบฯ 16 เม.ย.- ศบค.แถลง มีผู้ป่วยใหม่ 29 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย  ขอทุกคนอย่าเพิ่งผ่อนคลายการปฎิบัติตัว  อาจทำให้ตัวเลขผู้ป่วยกลับมาเพิ่มสูงขึ้นได้   ชื่นชม 25 จังหวัดไม่ป่วยเพิ่มใน 2 สัปดาห์  เผย นร. AFS เตรียมกลับไทยอีกกว่า 400 คน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลง สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (16 เม.ย.) ว่า ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 29 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,672 ราย รักษาหาย 1,593 ราย รักษาตัวอยู่ 1,033 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 46 ราย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นชาย สัญชาติมาเลเซีย อายุ 55 ปี อาชีพไกด์ทัวร์  ไม่มีโรคประจำตัว แต่มีประวัติเสี่ยงเดินทางไปจอร์เจีย ในวันที่ 13- 9 มีนาคม และมีลูกทัวร์ป่วยเป็นโควิด-19 จากนั้น เดินทางกลับไทยวันที่ 19 มีนาคม และเริ่มป่วยวันที่ 21 มีนาคม แต่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29 มีนาคม ด้วยอาการไอ เหนื่อย ออกซิเจนในเลือดลดลงเหลือ 88 % ผลเอกซเรย์ปอด พบปอดอักเสบ และพบติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นสองสัปดาห์อาการแย่ลงและเสียชีวิตเมื่อ 14 เมษายน


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัวเบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ทำการรักษาไม่ต่อเนื่อง เริ่มป่วยวันที่ 20 มีนาคม ด้วยอาการไอ เหนื่อย เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน รับยากลับไปพักที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้น และกลับมารักษาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 26 มีนาคมด้วยอาการไอ เหนื่อยมากขึ้น และพบปอดอักเสบรุนแรง และติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อ 27 มีนาคม ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยระหว่างการรักษา ผู้ป่วยเหนื่อยมากขึ้น ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จนอาการแย่ลงและเสียชีวิต เมื่อ 15 เมษายน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายสุดท้าย เป็นชายไทยอายุ 37 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ขับรถแบคโฮ มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และภาวะอ้วน ประวัติเสี่ยง คือ ภรรยาทำงานร้านอาหารย่านสุขุมวิท โดยเมื่อ 18 มีนาคม หลังปิดร้านได้กลับบ้านที่ จ.ปราจีนบุรี ต่อมาวันที่ 22 มีนาคมมีอาการไข้สูงทอมซินอักเสบรักษาที่คลินิกในจังหวัดปราจีนบุรี แต่อาการไม่ดีขึ้น  และเข้ารับการรักษาที่คลินิกอีก4-5ครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด  วันที่ 6 เมษายนด้วยอาการไข้สูง 39.1 องศาเซลเซียส หน้ามืดและใส่ท่อช่วยหายใจ  ส่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากนั้น อาการแย่ลงและเสียชีวิต 15 เมษายน

“แม้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะไม่เพิ่มสูงมาก ทำให้หลายคนเกิดความสบายใจ เราอยากจะมีความผ่อนคลายตัวเอง รวมถึง มีการพบปะรวมตัวใกล้ชิดกัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมา  ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ที่เห็นผลดีนั้น มาจาก 14 วันที่แล้ว หลังมีการประกาศเคอร์ฟิว เมื่อ 3 เมษายน ดังนั้น หากหลายคนอยากจะให้มีการผ่อนคลาย ก็จะต้องคำนึงว่า ในอีก 14 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น และอาจทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 29 ราย พบว่า มาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 14 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ  2 ราย  ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 10 ราย  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  ผู้ป่วยสะสม 2,672 ราย พบใน 5 จังหวัดที่สูงที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,349 ราย ภูเก็ต 191 ราย นนทบุรี 148 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 96 ราย และเมื่อจำแนกอัตราป่วยต่อประชากร 1 แสนคน พบว่า  ภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 46.20 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 23.79 ยะลา ร้อยละ 17.97 ปัตตานี ร้อยละ 11.92 และนนทบุรี ร้อยละ 11.78 และ ขณะที่ 9 จังหวัดยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มี 25 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 2-15 เมษายน ได้แก่ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี  นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี จึงขอชื่นชมทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครองนพ.สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่ทุกคนและประชาชน ที่ทำให้ไม่มีผู้ป่วยใหม่ในจังหวัดภายใน 14 วัน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อแล้วรวม 2,083,304 ราย เสียชีวิต 134,616 ราย สหรัฐอเมริกา อยู่ที่อันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อ 64,089 ราย ตาย 28,529 ราย ส่วนไทยยังอยู่ที่อันดับที่ 50 เช่นเดิม ส่วนประเทศอื่นๆ มีผู้ป่วยใหม่เช่น เกาหลีใต้  22 ราย ฟิลิปปินส์ 230 รายอินโดนีเซีย 297 ราย มาเลเซีย 85 ราย สิงคโปร์ 447 ราย และญี่ปุ่น 741 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า   จะมีเที่ยวบินของคนไทยที่ตกค้างเดินทางกลับไทย วันนี้ (16 เม.ย.) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 119 คน และ มัลดีฟส์ 55 คน และวันที่ 17 เมษายน จากบังคลาเทศ 35 คน  ส่วนนักเรียนไทยในสหรัฐฯ (AFS) จะเดินทางกลับมา  วันที่ 17 เมษายน 129 คน /18 เมษายน 123 คน และ 19 เมษายน 160 คน โดย ในแต่ละวันจะให้เดินทางกลับเข้ามาไม่เกิน 200 คน ส่วนคนไทยที่ยังตกค้างในต่างประเทศ  กระทรวงการต่างประเทศ และ สถานทูตได้ไปดูแล ติดต่อกับประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึง นำอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ไปให้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 […]

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]