ทำเนียบฯ 7 เม.ย.-ครม.เห็นชอบระเบียบการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่คดียาเสพติด สร้างแรงจูงใจขยายผลการสอบสวน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ. 2561 มีบทบัญญัติบางประการที่ทำให้การดำเนินการปราบปรามยาเสพติดขาดประสิทธิภาพ และการจับกุมคดียาเสพติดในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นเพียงการจับกุมผู้ลำเลียงและผู้ค้ารายย่อย ครม. จึงเห็นชอบในหลักการให้มีการแก้ไขร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับเดิม เพื่อกำหนดการจ่ายเงินค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างแรงจูงใจในการสอบสวนขยายผลคดียาเสพติดไปยังเครือข่ายผู้เป็นนายทุนและผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง
โดยมีสาระสำคัญได้แก่ การกำหนดนิยามเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ คือ เงินที่จ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้สืบสวนจับกุมหรือตรวจยึดเกี่ยวกับคดียาเสพติด รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนร่วมดำเนินการจนนำไปสู่การจับกุมหรือตรวจยึด โดยเป็นข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหาร และข้าราชการพลเรือนในระดับตำแหน่งที่กำหนด และให้รวมถึงเจ้าพนักงานผู้สืบสวนจับกุมหรือพนักงานสอบสวนที่สามารถขยายผลจนจับกุมผู้กระทำผิดได้
ขณะนิยามคำว่า การขยายผล คือ การสืบสวนหรือสอบสวนขยายผลจากคดียาเสพติดที่มีหรือเคยมีของเจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมผู้บงการหรือนักค้ายาในคดียาเสพติดรายสำคัญ เช่น คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฐานผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง และต้องมีพฤติการณ์ดำเนินเป็นเครือข่าย หรือผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้จ่ายเงินค่าตอบแทนเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยคดีที่ยึดได้แต่ยาเสพติดให้จ่ายเงินค่าตอบแทน ร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด
หากสามารถขยายผลการจับกุมและพนักงานอัยการสั่งฟ้องในกรณีจับกุมเจ้าของยาเสพติด ผู้กระทำความผิดร่วม ผู้สั่งการ หรือนายทุน และจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเป็นคดีใหม่ ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด จากเดิมที่จ่ายให้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด และเมื่อพนักงานอัยการสั่งฟ้องหรือศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จ่ายส่วนที่เหลือเต็มจำนวน
ขณะเดียวกัน คดีจับกุมผู้ต้องหาและยาเสพติดของกลางและพนักงานอัยการสั่งฟ้อง ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด แต่ถ้าพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องให้จ่ายร้อยละ 25 หากสามารถขยายผลการจับกุมและพนักงานอัยการสั่งฟ้องในกรณีจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ และจับกุมเจ้าของยาเสพติด ผู้กระทำความผิดร่วม ผู้สั่งการ หรือนายทุน ตลอดจนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเป็นคดีใหม่ ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด ทั้งนี้ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 100 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติดจากเดิม เมื่อพนักงานอัยการสั่งฟ้อง ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนโดยคำนวณตามปริมาณยาเสพติด หากพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนโดยคำนวณตามปริมาณยาเสพติดเพียงกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินตามสิทธิที่จะได้รับ
อย่างไรก็ตาม คดีจับกุมผู้ต้องหาที่จำหน่ายยาเสพติดให้แก่เด็กหรือเยาวชน เมื่อพนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาข้อหาจำหน่ายให้เก็บเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านและชุมชน ให้จ่ายเงินเพิ่มไม่เกิน 5,000 บาท.-สำนักข่าวไทย