บลจ.วรรณเปิดขาย SSF Extra ถึง 21 เม.ย.นี้ เน้นลงทุนหุ้นไทยและบริหารเชิงรุก

กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – บลจ.วรรณพร้อมเดินหน้าสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือตลาดทุน เปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณสนับสนุนตลาดทุนไทยเพื่อการออม หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออมพิเศษวันนี้ถึง 21 เม.ย.นี้ เน้นลงทุนหุ้นไทยและบริหารเชิงรุก ประเมิน downside risk เริ่มจำกัด มาตรการภาครัฐยังเป็นปัจจัยบวกสนับสนุน


นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดเสนอขายครั้งแรกกองทุนเปิดวรรณสนับสนุนตลาดทุนไทยเพื่อการออม หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออมพิเศษ (ONE-TCMSSF-SSFX) วันนี้ถึง 21 เมษายนนี้ นโยบายกองทุนลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอไม่น้อยกว่า 65% สำหรับเกณฑ์ลดหย่อนไม่อ้างอิงรายได้และสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี โดยไม่ต้องรวมกับกองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญและกองทุนเกษียณอื่น ๆ นโยบายลงทุนจะมีความยืดหยุ่น โดยกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ระหว่าง 80-100% เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละช่วง และจะเน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่และขนาดกลางซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว และมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และอาจมีการลงทุนในหุ้นไทยขนาดเล็กเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยจะเน้นบริหารจัดการเชิงรุก (Active Management) กระจายการลงทุน 20-40 หลักทรัพย์ ทั้งนี้ กองทุน ONE-TCMSSF-SSFX จะเสนอขายช่วงหลัง IPO ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน-30 มิถุนายน 2563

ขณะที่มุมมองการลงทุนช่วงนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมาเป็นจังหวะที่ทยอยเข้าสะสมได้ หากพิจารณาเชิงของ Valuation ของ SET น่าสนใจที่ระดับ PE ประมาณ 13 เท่า และอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4% ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ในส่วนของปัจจัยสนับสนุนอื่น บลจ.วรรณ มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจโลกและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง จากผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศมีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงมีมาตรการทางการคลังออกมาต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ผ่านไปแล้ว คาดว่าจะมีการเร่งรัดและเปิดประมูลมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หาก 


ส่วนสถานการณ์ไวรัสสามารถควบคุมได้ ในส่วนของค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกดลงและผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ทั่วโลกต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ มาตรการทางภาครัฐ ทั้งมาตรการด้านการเงิน ภาษี รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือตลาดทุนด้วยการให้นำเงินกองทุน SSF และกองทุน SSFX นำมาหักภาษีได้ 400,000 บาท ระยะเวลาลงทุน 10 ปี ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นต่อตลาด

นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.วรรณคาดการณ์เป้าหมายของดัชนีปีนี้ในกรอบ 1,130-1,280 จุด โดยกรอบบนบริษัทคาดการณ์บนสมมติฐาน หากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลกถูกควบคุมได้ภายในเดือนพฤษภาคม กิจกรรมการผลิตของจีนทยอยกลับสู่ภาวะปกติไตรมาส 2 ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังให้น้ำหนักเกี่ยวกับปัจจัยอัตราดอกเบี้ย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ช่วงครึ่งปีแรก ควบคู่กับมาตรการทางการคลังเพื่อเยียวยาและสนับสนุน ด้านกรอบล่าง คาดการณ์บนสมมติฐานปัจจัยต่างประเทศยังคงเผชิญกับเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิคในบางประเทศสำคัญ ราคาน้ำมันไร้เสถียรภาพ ด้านปัจจัยในประเทศภาคการท่องเที่ยวซบเซาต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีหลัง ภัยแล้งกระทบรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตร และความไม่สงบทางการเมืองเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมของรัฐบาล อย่างไรก็ดีในส่วนกลยุทธ์การลงทุนของเดือนนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอาหาร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย