จุรินทร์ สั่งจับ กลุ่มฉวยโอกาส ขายไข่แพงเกินราคา

นนทบุรี 27 มี.ค. – จุรินทร์ สั่งลุยจับ กลุ่มฉวยโอกาส ขายไข่แพงเกินราคา-ซ้ำเติมวิกฤติ 


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุม กิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 อาคาร สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยใช้เวลากว่า 3 ชม. 

ภายหลังการประชุมนายจุรินทร์ กล่าวว่า  ในเรื่องของไข่ไก่ภายหลังจากที่ได้ลงนามในประกาศห้ามส่งออกไข่ไก่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา7วันนับตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา วันนี้ก็เลยจะต้องดำเนินการมาตรการตามกฏหมาย คือจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อให้ความเห็นชอบซึ่งวันนี้ที่ประชุมก็ได้ใครความเห็นชอบและให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานกกรสามารถใช้ดุลพินิจในการที่จะขยายเวลาไปได้รวมทั้งหมดตั้งแต่วันประกาศไม่เกิน 30 วันหากว่ามีความจำเป็นต้องห้ามส่งออกนานกว่านั้นก็จะต้องกลับมาขออนุมัติที่ประชุมใหม่


อย่างไรก็ตาม สำหรับปริมาณการผลิตไข่ไก่จะมีการผลิตวันละประมาณ 41,000,000 ฟองและบริโภคในประเทศประมาณ 39,000,000 ฟองในภาวะปกติเพราะฉะนั้นมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการคือทำอย่างไรที่จะให้ไข่ไก่ที่ผลิตได้วันละ 41,000,000 ฟองซึ่งผลิตได้ในแต่ละวันสามารถสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่มาของมาตรการที่หนึ่งคือการห้ามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรโดยมีข้อมูลบางส่วนว่าอาจจะมีการลักลอบส่งออกตามบริเวณชายแดนซึ่งจะทำให้ปริมาณขายในประเทศไม่เพียงพอต่อการบริโภคและประการถัดมาก็คือสำหรับผู้ที่กักตุนไข่ไว้ทำให้ไข่ไม่สามารถออกสู่ตลาดเพื่อสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้นั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดทั้งในข้อหากักตุนและค้ากำไรเกินควรซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึงเจ็ดปีปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ประเด็นปัญหาที่ไข่ในตลาดในขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอเนื่องจากว่าผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยมีความต้องการที่จะซื้อไข่ไปเก็บไว้เพื่อบริโภคที่บ้านในปริมาณที่มากกว่าปกติซึ่งตัวเลขที่กรมการค้าภายในได้ติดตามในช่วงนี้ในเวลาไม่กี่วันมานี้พบว่ามีความต้องการสูงขึ้นถึงสามเท่าจากภาวะปกติที่ปริมาณการผลิตไข่วันละ 41,000,000 ฟองมีเพียงพอและบางช่วงเหลือส่งออกด้วยซ้ำ ซึ่งมีบางช่วงรัฐบาลเคยช่วยส่งเสริมการส่งออกและช่วยอุดหนุนการส่งออกฟองละ 46 สตางค์ ดังนั้นหลายห้างสรรพสินค้าในขณะนี้จึงใช้มาตรการจำกัดปริมาณการซื้อไม่ให้ซื้อไปเก็บไว้สำหรับคนคนเดียวมากเกินไปทำให้คนอื่นไม่มีโอกาสได้ซื้อและเท่าที่ติดตามจะมีไข่ชุดใหม่ออกมาสู่ตลาดทุกๆวัน

ขณะนี้หัวใจสำคัญคือสำหรับผู้ที่กักตุนทำให้ไข่ขาดตลาดและพวกที่คิดจะลักลอบนำไข่ออกไปบริเวณชายแดนรวมทั้งผู้ที่ขายเกินราคาจะต้องถูกกำหนดดำเนินคดีโดยเด็ดขาดโดยคณะกรรมการป้องกันการกักตุนสินค้าและการค้ากำไรเกินควรโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานซึ่งถึงขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีในหลายจังหวัดทั่วประเทศยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานนอกจากคดีที่ จังหวัดพิษณุโลกที่ค้ากำไรเกินควร และยังมีที่เขตราชเทวีคือร้านไข่ไก่สวนฟาร์มกิตติคุณซึ่งขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์ราคา 200 บาทต่อแผงและได้ส่งดำเนินคดีที่สน. ดินแดงแล้ว และร้านเจ๊ใหญ่ที่อำเภอเมืองปทุมธานีขายไข่ไก่แผงละ 170 บาทซึ่งถือเป็นการค้ากำไรเกินควรและร้านข้างตลาดบ่อนไก่อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งขายไข่ไก่เบอร์สามแผงละ 130 บาท เบอร์สองแผงละ 145 เบอร์หนึ่งแผงละ 150 บาทซึ่งโดนข้อหาค้ากำไรเกินควร หรือในกรณีที่ร้านตลาดเทศบาลสามอำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์และตลาด ณ ท่าศาลา อำเภอท่าใหม่ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกันสำหรับตลาดท่าใหม่ นอกจากไม่ติดป้ายราคาแล้วยังมีการจำหน่ายไข่ไก่เบอร์ศูนย์แผงละ 180 บาทเบอร์หนึ่งแผงละ 170 บาทเบอร์สองแผงละ 160 บาทจึงโดนข้อหาค้ากำไรเกินควรด้วยสำหรับที่ตลาดเลิศนิมิต อำเภอบางใหญ่ แผงชื่อก.ขายไข่ขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์แผงละ 180 บาทถูกดำเนินคดีค้ากำไรเกินควร และร้านทวีทรัพย์จังหวัดอ่างทองซึ่งค้ากำไรเกินควรขายไข่ไก่เบอร์ศูนย์ 180 บาทต่อแผงและโดยในโยบายได้มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินคดีโดยเคร่งครัดรวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบส่งออกตามบริเวณชายแดนด้วย


และล่าสุดวันนี้ที่บางเลน จังหวัดนครปฐม กำลังดำเนินคดีกับฟาร์มซึ่งขายไข่ไก่หน้าฟาร์มในราคา 3.80 บาทจากราคาที่สมาคมประกาศฟองละ 2.80 บาท ที่จังหวัดนครสวรรค์ก็กำลังดำเนินคดีอยู่ ณเวลานี้เช่นกันซึ่งขายขายครัหน้าฟาร์มราคาฟองละเฉลี่ย 3.20 บาทจากราคาที่ประกาศ 2.80 บาท ที่ อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ชื่อฟาร์มกนกวรรณ สิ่งหนึ่งที่จะขอเน้นย้ำคือ ขอฝากเตือนผู้ที่กระทำการช่วยโอกาสซ้ำเติมความทุกข์ของประชาชนในขณะนี้ซึ่งนอกจากทุกคนจะต้องร่วมกันในการประสบภัยโควิชแล้วผมไม่อยากเห็นการแสวงหาประโยชน์ที่เท่ากับเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ของประชาชนในภาพรวมเพราะว่าเมื่อถูกดำเนินคดีแล้วรายได้อาจจะไม่ถึงจะมากหรือจะน้อยสุดแล้วแต่แต่ช่วงเวลานี้เราจะเห็นได้ชัดว่าศาลพิพากษาจำคุกจริงๆเพราะฉะนั้นมันจึงไม่คุ้มกันกับการเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าที่ได้รับมาสำหรับพี่น้องประชาชนผู้บริโภคอยากขอให้ช่วยซื้อเท่าที่รับประทานได้ในช่วงเวลาไม่นานและออกไปซื้อใหม่ซึ่งจะช่วยให้หลายหลายท่านจะมีใครนำไปบริโภคได้หลายรายมากขึ้น

สำหรับเจลล้างมือ ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกประกาศที่กำหนดว่าเจลล้างมือที่วางขายตามท้องตลาดจะต้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่า 70%ทำให้เจลสวนหนึ่งที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ไม่ถึงร้อยละ 70 จะต้องถูกเก็บออกจากตลาดไป ช่วงรอยต่อนี้ทำให้เจลขาดตลาดมากขณะเดียวกันการผลิตเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปจะมีความจำเป็นต้องนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตเป็นเอทานอลออกมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแต่ขณะนี้แม้ว่ากรมสรรพากรสามิตจะได้ผ่อนคลายกฎระเบียบว่าให้สามารถนำเอทานอลมาใช้ในการผลิตเจลล้างมือได้แล้วโดยให้สามารถซื้อได้ไม่เกิน 5,000 ลิตรต่อหนึ่งใบอนุญาตแต่ในขั้นตอนกระบวนการปฏิบัติอย่างค่อนข้าง ซับซ้อนอยู่ยกตัวอย่างเ ช่นผู้ที่จะขอซื้อเอทานอลเพื่อไปผลิตเจลนั้นอาจจะต้องไปขออนุญาตจากสรรพสามิตในจังหวัดที่ตนเองมีภูมิลำเนาหรือเมื่อได้ใบอนุญาตแล้วจะต้องไปขออนุญาตที่จะซื้อเอทานอลในจังหวัดที่โรงงานเอทานอลตั้งอยู่ด้วยและในการที่จะขนเอทานอลหลังจากซื้อจากโรงงานแล้วก็จะต้องมีขั้นตอนกระบวนการใบขับขี่ของคนขับหลายขั้นตอนซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในเรื่องของการปฎิบัติ

“ซึ่งเมื่อวานผมได้เรียนให้ประชุมโควิดได้รับทราบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติอยู่ทางกระทรวงการคลังก็รับที่จะไปช่วยครีขายปัญหาในเรื่องนี้ซึ่งกรมการค้าภายในได้เสนอว่าถ้าเป็นไปได้น่าจะมีการตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสที่โรงงานผลิตเอทานอลเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเอสทนร์เพื่อนำมาผลิตเจลเพื่อ ให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้นหรืออีกวิธีหนึ่งคือการให้เจลที่ออกสู่ตลาดมีการปรับเปลี่ยน package จริงจากขวดที่มีหัวปั๊มมาเป็นในรูปแบบของถุงหรือรูปแบบคือก็จะช่วยให้สามารถผลิตและออกสู่ตลาดได้รวดเร็วมากขึ้นซึ่งกรมการค้าภายในจะได้ประสานกับกระทรวงสากรรมและกรมสัมผัสสามิตเพื่อให้เจลออกสู่ตลาดได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ส่วนผู้ที่ขายเกินราคาเกินควรก็จะต้องถูกดำเนินคดีต่อไปเช่นกัน” นายจุรินทร์ กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวีดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟฟิคในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่อาจใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อมไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซีในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้นเราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ หากมีการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จริง จะต้องมีการเข้าดำเนินการตอบโต้จากฝ่ายไทย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย ภายใต้มาตรการรักษาความมั่นคงอย่างเข้มงวด อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่า […]

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]