ชัดเจน คลิป นายก อบต.วัย 71 นัวเนียลูกจ้างวัย 25 ปี

ลพบุรี 18 มี.ค.-ลูกจ้างวัย 25 ปี ร้องเรียน ถูกนายก อบต. แห่งหนึ่งใน ลพบุรี วัย 71 ปี พยายามลวนลาม พร้อมอ้างไม่กลัวความผิด-ไม่มีใครทำอะไรได้ ด้านลูกน้อง นายก อบต. ชี้เจ้านายถูกวางยาหวังแบล็กเมล


กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดที่เกิดขึ้นภายในห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี โดยเป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงสาว ซึ่งเป็นพนักงานลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลฯ กำลังถูกนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฯ พยายามที่จะลวนลาม แต่หญิงสาวคนดังกล่าวขัดขืน และวิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับหญิงสาวผู้เสียหาย ชื่อนางสาวสมศรี(นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เธอเปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. เพื่อนร่วมงานมาตามให้ไปพบกับนายกฯอบต.หลายครั้ง ซึ่งกำลังพับเสื้อเพื่อที่จะไปแจกให้กับพี่น้องประชาชน จนเวลาประมาณ 15.20 น. จึงได้เดินขึ้นไปบนอบต. นายกฯแจ้งมาว่าต้องการให้ตนเองไปประกาศออกเสียงตามสาย   และตนเองรู้สึกว่าเหมือนมีความพยายามให้เจ้าหน้าที่ และเพื่อนร่วมงาน รวมถึงนักการภารโรง เร่งรีบให้ตนเองไปหา  ทำให้รู้สึกผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง   เมื่อประกาศเสียงตามสายจนเสร็จ  และได้เดินออกมาจากห้องประชาสัมพันธ์ก็ได้พบกับนายกฯ ภายในห้องประชุมสภา จากนั้นนายกฯอบต.เริ่มพยายามที่จะลวนลามตนเอง  แม้ตนได้พยายามร้องให้คนช่วย และอ้อนวอนต่างๆ นาๆ แต่นายกฯก็ยังลวนลามไม่หยุด ใช้กำลังหวังจะข่มขืนตน ระหว่างที่ลวนลามนายกฯได้พูดย้ำกับตนเองหลายครั้งว่า นายกฯไม่กลัวต่อความผิด  เพราะไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ก่อนตนจะให้ช่วงจังหวะตะโกนให้คนช่วยอย่างเสียงดัง จนวิ่งหนีรอดออกมาจากห้องประชุมได้

หลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนเองพร้อมญาติได้เดินทางไป เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง  พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำให้ในเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้มีการเชิญตัวนายกอบต. ไปรับทราบข้อกล่าวหา  จึงทำให้ตนเองเกิดความกังวลใจ ไม่สบายใจ ล่วงเลยมานานเกือบ  2 สัปดาห์แล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า  และให้การเข้าพบตำรวจตนได้นำเอาภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดไปให้ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานด้วย


ล่าสุดเวลา 13.00 น. ผู้เสียหายได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี   ในเบื้องต้นจังหวัดได้แจ้งให้นายอำเภอท่าวุ้ง ให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย  

นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่ากำชับไปยัง นายอำเภอท่าวุ้งให้ดูแลความปลอดภัยให้กับลูกจ้างสาวและครอบครัวด้วย หากพบว่าคดีดังกล่าวมีมูล นายอำเภอสามารถสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวได้ทันที  และหากพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง สามารถสั่งปลดออกจากตำแหน่งได้ทันที ขณะที่หลักฐานกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ไปนำเอาฮาร์ดดิสมาตรวจสอบและส่งไปที่ ปอท.เพื่อหาหลักฐาน  และทาง ปอท.ได้ส่งฮาร์ทดิสก์กลับมา  และแจ้งว่าไม่มีภาพในกล้องวงจรปิด เพราะหน่วยความจุไม่เพียงพอ และผู้เสียหายยังได้เข้าพบกับนายสิธา ภู่เอี่ยม นอภ.ท่าวุ้ง เพื่อยื่นหนังสือขอให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากขณะนี้มีลูกน้องคนสนิทของ นายกอบต. กล่าวหาว่าตนเป็นผู้วางยานายก อบต.ทำให้ไม่มีสติ จนก่อเหตุลวนลาม เพื่อแลกเงิน 

ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับน.ส.สมศรี (นามสมมุติ) ลูกจ้างสาวอีกครั้ง เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยความคับแค้นใจ และเล่าด้วยน้ำตานองหน้าร้องให้ออกมาจนน้ำตาเปียกหน้ากากอนามัย กล่าวว่า หนูมีครอบครัวที่ดี อบอุ่น ตนเองไม่ต้องการเงินของใคร คิดว่่าเงินจะมาซื้อทุกสิ่งได้หรือไร คิดได้อย่างไรว่าตัวเองวางยา เพื่อแลกเงิน ขอให้ดูสารรูปตัวเอง ถึงแม้คุณจะร่ำรวยขนาดไหนก็ไม่มีวันทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้

หลังจากนั้นได้แจ้งความ สภ.บ้านเบิก อีกครั้ง ให้ดำเนินคดีกับคนใกล้ชิดนายกอบต.ในข้อกล่าวหา ใส่ร้ายให้ความเท็จว่าตนเองเป็นคนวางยา ซึ่งไม่ได้เป็นความจริง ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ตนเองและครอบครัวด้วย เนื่องจากขณะนี้อยู่อย่างหวาดระแวง แต่ต้องสู้รักษาไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี

ด้านพันตำรวจโทไพโรจน์ ทองมาเอง หัวหน้าสถานี สภ.บ้านเบิก กล่าวว่าความคืบหน้าทางคดี เบื้องต้นทางนายก อบต. ได้ให้ทนายความเข้าไปติดต่อกับพนักงานสอบสวนสภ.บ้านเบิก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและจะเดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน ในวันที่ 20 มีนาคม 2563 นี้ ส่วนกล้องวงจรปิดและเซิฟเวอร์ที่ไม่มีคลิป เนื่องจากความจุของเครื่องน้อย จากนี้ตนเองจะให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ ปอท.ที่เป็นผู้ตรวจสอบ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่าเซิฟเวอร์ไม่มีภาพตามที่ได้มีการแจ้งมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]