เพชรบูรณ์ 18 มี.ค. – ตาแต๋ วัย 77 ปี ชาวเพชรบูรณ์ที่เคยตายแล้วฟื้น จนเป็นข่าวดังหลายเดือนก่อน ครั้งนี้ตายจริง ไร้ปาฏิหาริย์ ไม่ฟื้นแล้ว
ตาแต๋ หรือ นายประเกียบ ขุนแก้ว อายุ 77 ปี ชาวบ้านสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ที่เคยเป็นข่าวว่าไปสูบน้ำแล้วเจ็บหน้าอก วูบหมดสติ หัวใจหยุดเต้น แต่มี 2 สาวพลเมืองดีจอดรถช่วยทำ CPR จนฟื้นจากความตาย และลุกขึ้นมาเล่าว่า ขณะหยุดหายใจไปมียมทูตมารับตัว แต่ยมทูตบอกชื่อสกุลไม่ใช่ มารับผิดคน จึงส่งกลับ ทำให้ฟื้นจากความตาย กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ตาแต๋เสียชีวิตลงอีกครั้ง ครอบครัวตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ที่ศาลาวัดทุ่งสะเดียง
นางดอกไม้ ขุนแก้ว อายุ 48 ปี ลูกสาวของตาแต๋ เล่าว่า ครั้งก่อนที่พ่อวูบเสียชีวิต และฟื้นขึ้นมาทำให้ทราบว่าพ่อเส้นเลือดใหญ่หัวใจรั่ว จึงพาไปรักษาอาการมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง 3-4 วันก่อน พ่อมีอาการอ่อนเพลีย จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ช่วงบ่ายของวันที่ 16 มีนาคม พ่ออาการทรุด จากนั้นญาติที่เฝ้าพ่อโทรมาบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้วช่วง 16.00 น. ลูกหลานจึงไปวัดเตรียมติดต่อสถานที่ เตรียมโลงเย็น และนิมนต์พระ แต่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ญาติก็โทรมาจากโรงพยาบาลอีกว่า “พ่อฟื้นอีกแล้ว” ทำให้คิดว่าน่าจะเหมือนครั้งก่อน จึงบอกยกเลิกการจองศาลา ยกเลิกนิมนต์พระ และเตรียมไปเยี่ยมพ่อแทน แต่อีกสักพักญาติโทรกลับมาอีกครั้ง บอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ทำให้ต้องกลับไปจองศาลาและนิมนต์พระซ้ำ และไม่มีปาฏิหาริย์แล้ว จึงนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งสะเดียง ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตได้บอกลูกๆ ไว้ว่า ขอให้เอาศพไว้คืนเดียว เพราะจะเปลืองค่าใช้จ่าย
และคืนที่ผ่านมา ขณะลูกและญาตินั่งหารือเรื่องการจัดงานศพ และเห็นพ้องว่าจะตั้งสวด 3 คืน จู่ๆ ไฟฟ้าก็ดับทั้งวัด ทำเอาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจกระโดดกอดกันด้วยความกลัว ก่อนไปจุดธูปบอกขอจัดงานศพ 3 วัน เพื่อรอญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดมาร่วมงานด้วย จากนั้นไฟก็กลับมาติดเหมือนเดิม สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ลูกสาวบอกด้วยว่า พ่อเคยบอกหากพ่อตายไปอย่าเสียใจ และวันเผาไม่อยากให้เปิดเพลงธรณีกรรแสง แต่อยากให้ลูกหลานนำกอลงยาวแห่และรำหน้าศพ เพราะอยากให้ลูกหลานมีความสุข ไม่อยากให้โศกเศร้า สำหรับศพของตาแต๋จะตั้งมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.). – สำนักข่าวไทย