กทม.9 มี.ค.-ศาลฯสั่งส่งตัว “ลูกสาวบรรยิน”ไปสถานกักขังกลางปทุมธานี เพื่อควบคุมตัวและตรวจพิสูจน์ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดฯก่อนได้ประกันตัว
ที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งส่งตัว น.ส.บุษญา ตั้งภากรณ์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีเสพยาอี บุตรสาวของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ไปควบคุมตรวจพิสูจน์การเสพหรือการติดยาเสพติด
คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดพื้นที่ในเขตรับผิดชอบถึงบริเวณหน้าอุทยานเบญจสิริ ตรวจพบผู้ต้องหาโดยสารรถเบนซ์สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับผ่านมา เมื่อพบเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการตื่นตกใจ มีพิรุธต้องสงสัย คล้ายผู้ที่ครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย และดูเหมือนพยายามซุกซ่อนอะไรบางอย่างไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกลุ่มจึงได้แสดงตัวและส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น ขณะนั้นสถานที่ทำการตรวจค้นมีแสงสว่างเพียงพอแก่การมองเห็นจากไฟบนถนนสาธารณะและไฟฉายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เนื่องจากผู้ถูกค้นเป็นผู้หญิง จึงได้ให้หยิบสิ่งของที่อยู่ภายในเสื้อผ้าที่ตัวเองได้สวมใส่อยู่เพื่อแสดงออกมา ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่จากการสังเกตพบว่าผู้ถูกจับมีลักษณะท่าทางมึนเมาคล้ายผู้ที่เสพสิ่งเสพติด จึงสอบถามผู้ถูกจับว่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษหรือไม่ ผู้ถูกจับให้การว่าเพิ่งเสพยาอีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ถูกจับมาทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเบื้องต้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งผู้ถูกจับยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจปัสสาวะด้วยความสมัครใจ ขณะทำการตรวจ ผู้ถูกจับไม่ได้ดื่มน้ำหรือรับประทานสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น
ผลการตรวจปัสสาวะปรากฏว่าผลเป็นบวก จึงเชิญตัวผู้ถูกจับไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลคลองตัน แล้วพบสารเสพติดประเภทยาอี หรือแอมเฟตามีนในปัสสาวะ จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) โดยผิดกฎหมาย จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2563 เวลาประมาณ 06.10 น.
ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว ให้ส่งตัวไปยังสถานกักขังกลางปทุมธานี เพื่อควบคุมตัวและตรวจพิสูจน์ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 มาตรา 19 พร้อมแจ้งให้คณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตามกฎหมายดังกล่าวทราบ
มีรายงานว่า น.ส.บุษญา ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นการควบคุมตัวและตรวจพิสูจน์ ตามกฎหมายของคณะกรรมการฟื้นฟูฯ แล้วซึ่งได้รับอนุญาต -สำนักข่าวไทย