fbpx

“ธรรมนัส” แจ้งความ ส.ส.อดีต อนค.ผลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐสภา 27 ก.พ.-  “ธรรมนัส” แจ้งความ ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ หลังนำเอกสารศาลประเทศออสเตรเลียอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุ บิดเบือนข้อเท็จจริง ย้ำ ชี้แจงชัดแล้วในสภาฯ แต่ไม่ยอมรับ ก็ไปต่อที่ชั้นศาล   ไม่หวั่นหลุด ครม. ระบุ อำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึง กรณีที่ นายธัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ  อดีตพรรคอนาคตใหม่  นำเอกสารคำตัดสินของศาลประเทศออสเตรเลีย มาอภิปรายไม่ไว้วางใจและเผยแพร่ พร้อมให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นสิทธิ์ แต่ต้องบอกว่าแค่การอภิปราย เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.พ.) ก็โดนฟ้องหลายคดีแล้ว 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ จะร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพะเยาในหลายประเด็น และจากนี้จะดำเนินคดีคนที่พาดพิง หรือแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่างๆ  เนื่องจากตนมีทีมวอร์รูมคอยตรวจสอบผู้ที่ทำให้เสียหาย  ยืนยันไม่ใช่เป็นการปิดช่องทางการตรวจสอบ แต่มองว่าเมื่อได้ชี้แจงต่อสภาฯ ซึ่งถือเป็นสถานที่อันทรงเกียรติแล้ว แต่ยังไม่ยอมรับเงื่อนไข และพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ก็ไปว่ากันที่ขั้นตอนของศาล 


“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว แต่กลับมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เล่นการเมืองโดยใช้โซเชียลมีเดีย ผมก็พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์นี้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว พร้อมตั้งคำถามว่า การอภิปรายพาดพิงไปถึงเรื่องส่วนตัวและครอบครัว ถือเป็นจริยธรรมที่นักการเมืองควรทำหรือไม่

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลที่ถูกอภิปรายจะทำให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ข้อมูลที่ถูกอภิปรายยังด้อย กว่าที่ตนชี้แจง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย และหากยังไม่หยุด ตนมีข้อมูลมากกว่านี้ หากนำมาสวนกลับแล้วจะหนาว 

“ถ้าจะถามว่าเป็นจุดอ่อนหรือไม่  ก็ต้องรอดู เพราะที่ผ่านมาผมทำงานลงพื้นที่ 111 ครั้ง ช่วยเหลือประชาชน 45 จังหวัด และตอนนี้ก็มีประชาชนทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่อยากเดินทางมาให้กำลังใจที่รัฐสภา นี่แสดงให้เห็นว่าผมทำงานตอบโจทย์ประชาชน  ผมไม่ได้มีอาชีพเป็นนักการเมือง เพียงแต่เข้าสู่การเมือง เพราะต้องการพัฒนาให้บ้านเมืองมีความเจริญ หากยังเห็นตัวเองมีประโยชน์ก็จะทำต่อ แต่หากคิดว่าไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องรอให้มีใครมาไล่ ผมจะไปของผมเอง”  ร.อ.ธรรมนัส กล่าว 


ส่วนหลังการอภิปรายจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่จะหารือกัน ไม่ใช่ ส.ส.คนใดคนหนึ่งจะเป็นคนตัดสินใจ เมื่อถามว่า การลงมติจะออกมาเป็นอย่างไร และมีเสียงไว้วางใจเกิน 250 เสียงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า  ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนจะดีหรือไม่ดีตามมาตรฐานของคนอื่น ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกจะพิจารณา   

 ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวว่า ขณะนี้ไม่ได้ติดต่อหรือทาบทาม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่มาร่วมรัฐบาล เพราะเสียงของรัฐบาลมีมากกว่า 270 เสียงแล้ว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำเรื่องนี้ และไม่สนใจ เพราะตนมองข้ามไปถึงการเลือกตั้ง 3 ปีข้างหน้าแล้ว ยอมรับว่าชอบแนวคิดของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่หลายคน เพราะมีความตั้งใจจะเข้าสู่การเมือง แต่การเมืองไม่ใช่ของเล่น อย่าเล่นการเมืองมากเกินไป   .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด