นายกฯ แจงรัฐบาลไทยพร้อมต่อสู้คดีเหมืองบริษัทอัคราเต็มกำลัง

รัฐสภา 25 ก.พ.- นายกฯ แจงรัฐบาลไทยพร้อมต่อสู้คดีเหมืองบริษัทอัคราเต็มกำลัง ยืนยันที่ใช้คำสั่งมาตรา 44 ไม่ได้ยึดเหมือง แต่ให้ระงับใบอนุญาตไว้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ย้ำว่ายังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ เหตุอนุญาโตตุลาการไม่ให้เปิดเผยความลับ อาจกระทบต่อรูปคดี


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้ว่ามีพฤติกรรมส่งผลเสียหายต่อรัฐและประชาชน มีการงดเว้นละเว้นการใช้อำนาจและเพิกเฉยต่อการทำสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างรัฐและเอกชน กรณีร้านค้าปลอดอากรภาษีของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (ทอท.) โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการบรรเทาผลกระทบลดค่าตอบแทนที่ต้องคืนให้รัฐเป็นเวลา 2 ปี โดยบอร์ด ทอท.กล่าวอ้างว่าอยู่ภายใต้ข้อสั่งการของนายกฯ หลังการประกาศข่าวของบอร์ด ทอท. เป็นการช็อกตลาดหุ้นไทย ที่งดเว้นการจัดเก็บรายได้ขั้นต่ำจากเอกชน ในช่วงปี 2563-2565 ทำให้รายได้หายไปถึง 30,000 ล้านบาท ส่งผลให้หุ้นตกไปถึง 6% ซึ่งจากการติดตามข้อสั่งการของนายกฯ เป็นเพียงมาตรการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งต้องทำควบคู่กันหลายมาตรการ แต่บอร์ดทีโอทีทำแบบนี้ได้โดยไม่ต้องยึดมติ ครม. เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กระทำก่อนหน้านี้ในการออกกฎหมาย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพื่อเอื้อเอกชนรายใดรายหนึ่งมาก่อน


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ที่ถูกแก้มาก่อนหน้านี้ ทำให้ประเภทร้านค้าสนามบินถูกมัดรวมกัน ให้สิทธิเจ้าเดียวโดยไม่ต้องบอกประเภทสินค้า ที่ผ่านมมีความพยายามหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะมีความเคร่งครัดไป จึงเท่ากับ ทอท.มีสิทธิขาดตั้งแต่คัดเลือกจนถึงการพิจารณาสัญญาผูกขาดเจ้าเดิมเจ้าเดียว ทั้งนี้ พบว่าที่ผ่านมาบริษัทที่ได้สัมปทาน 3 บริษัท บริจาคโต๊ะจีนให้พรรคการเมืองหนึ่ง 24 ล้านบาท จึงไม่เชื่อว่าเงินแค่ 24 ล้านบาท จะทำให้หลับตาข้างหนึ่ง ยอมแก้กฎหมาย ยอมออกประกาศให้เอกชนรายหนึ่งยอมรับประโยชน์โดยมิชอบ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นำภาพในกระแสโซเชียลที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลโดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาเคลื่อนไหวมาอภิปรายตั้งคำถามศักยภาพของผู้นำในการบริหารประเทศ และชี้ถึงผลกระทบจากมาตรา 44 ที่เปิดช่องให้มีการฮุบเหมืองทองแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร จึงทำให้ไทยเกิดข้อพิพาทกับบริษัทเอกชน ในออสเตรเลียจนถูกนำข้อพิพาทเข้าสู่คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการชี้ขาดว่า รัฐบาลไทยล่วงละเมิดข้อตกลงทางการค้า อาจทำให้ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหาย 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่ไว้วางใจให้บริหารประเทศต่ออยากให้ลาออก


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีอภิปรายออกคำสั่งยึดเหมืองชาตรี ของบริษัทอัครารีซอร์สเซสว่า รู้สึกแปลกใจว่าตอนกลางวันก็ทักทายกันดี แต่พออภิปรายบรรยากาศตึงเครียด ไม่รู้ว่าไปกินอาหารอะไรผิดมาหรือเปล่า พร้อมชี้แจงว่า บริษัทอัคราเป็นผู้ดำเนินการขอสัมปทานเพิ่มอีก 9 แปลง อายุ 20 ปี ถึงปี 2571 แต่ที่ผ่านมาก็มีการร้องเรียนมาถึง 6 รัฐบาลด้วยกัน ว่ามีการปนเปื้อนมีสารพิษ มีการเดินขบวนต่อต้าน จึงมีการพิสูจน์อย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการหลายคณะ ยืนยันว่าไม่ได้ออกคำสั่งยึดเหมืองมาเป็นของตนเอง แต่เป็นการระงับใบอนุญาตชั่วคราว เพื่อผลประโยชน์สาธารณะและสุขภาพที่ดีของประชาชน และให้ปิดกิจการตั้งแต่ปี 2560 จนกว่ามติจะเป็นอย่างอื่น โดยบริษัทคิงส์เกต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทอัครา ยื่นต่ออนุญาโตตุลาการ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องการพิจารณาตามความเหมาะสม พร้อมยกปัญหาที่ผ่านมาหลายรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการแก้ไข

ส่วนข้อสังเกตที่มีผู้รับผลประโยชน์แทน พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ก็ไม่รู้เช่นกัน แต่ขณะนี้ฝ่ายคู่พิพาทก็พยายามหาช่องทางการเจรจาคู่กันไปด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกลไกการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ โดยการพิจารณาเพิ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 แต่ยืนยันว่าเป็นไปโดยความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อปกป้องพี่น้องประชาชน ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการมีข้อบังคับไม่ให้คู่พิพาทเปิดเผยข้อมูลเอกสารต่อสาธารณะ และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงนามหนังสือรักษาความลับ เพื่อไม่ให้กระทบต่อรูปคดี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะต่อสู้คดีให้เต็มกำลัง หากมีช่องทางใดจะทำให้ยุติได้ก็ต้องทำ

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการจัดตั้งร้านค้าปลอดอากรในสนามบิน ที่มีกล่าวหาว่าเพื่อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนรายเดียวว่า ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยว่ากิจการร้านค้าปลอดอากร ไม่ใช่บริการสาธารณะ แต่เป็นการบริการเชิงพาณิชย์ ประกอบกับไม่ใช่กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นต้องมีทุกท่าอากาศยาน นอกจากนี้ กิจการร้านค้าปลอดอากรเป็นกิจการที่เสริมท่าอากาศยาน ไม่ใช่กิจการที่จำเป็นหรือขาดไม่ได้ โดยมีความเห็นพิจารณาร่วมกันหลายหน่วยงาน และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างประกาศที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เข้าข่ายสั่งการเอื้อประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ว่าดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ มีการรับฟังความคิดเห็น มีการใช้แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้ง 3 จังหวัดในพื้นที่ โดยพื้นที่พัฒนาเมืองและชุมชนรวม 1 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 13 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่อุตสาหกรรมรวม 424,854 ไร่ ถือเป็นร้อยละ 5.12 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยการตัดสินใจต้องมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และต้องให้คณะรัฐมนตรีตัดสินใจด้วย ซึ่งร่างแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่และการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม กำหนดพื้นที่อุตสาหกรรมให้อยู่ห่างจากป่าไม้ แม่น้ำ ลำคลอง ชายฝั่งทะเล โดยกำหนดพื้นที่สงวนเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากร 1.6 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 20 ของพื้นที่ทั้งหมด มีวิธีการดูแลเยียวยาที่เหมาะสมยอมรับได้ คณะกรรมการจะติดตามผลงานต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และเน้นย้ำให้ประชาชนมีส่วนร่วมเสมอ

นายกรัฐมนตรีชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งมีเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวในวันที่มีความกดอากาศสูงแผ่ลงมาจากประเทศจีนมีกำลังอ่อนลงทำให้เกิดภาวะฝาชีครอบเกิดทุนสะสมเกินมาตรฐานบางเวลาโดยให้การแก้ไขเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติโดยมี 3 มาตรการหลัก คือ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ โดยกรุงเทพมหานครมีปัญหาเกิดจากการจราจรร้อยละ 72.5 โดยมีนโยบายสนับสนุนให้เปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เปลี่ยนรถ ขสมก. ให้เป็นรถมลพิษต่ำ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ซึ่งขณะนี้มียอดจับกว่าหมื่นคันแล้ว กำหนดมาตรฐานรถยนต์ใหม่ตามมาตรฐานยูโร 5 ในปี 2564 และมาตรฐานยูโร 6 ในปี 2565 พร้อมย้ำว่าทุกอย่างต้องมีขั้นตอนการแก้ไข รวมถึงมีการส่งเสริมปลูกต้นไม้ดักจับฝุ่นละออง มีมาตรการทางภาษีสรรพสามิต สนับสนุนการใช้น้ำมันดีเซลบี 20 และบี 20 ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตให้สอดคล้องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้บรรยากาศตลอดทั้งวันค่อนข้างราบรื่น แต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมามีมีการประท้วงจาก ส.ส.รัฐบาล โดยเฉพาะช่วงที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ดวงนายกรัฐมนตรีทำลายดวงเมือง ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรี พยายามคุมอารมณ์และแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]