อนาคตวงการยกน้ำหนักไทย

กรุงเทพฯ 25 ก.พ.- อนาคตของสมาคมกีฬายกน้ำหนักไทยและจอมพลังทีมชาติไทยจะเป็นอย่างไร หลังจากผู้บริหารสมาคมลาออกยกชุด ติดตามจากรายงานพิเศษ


หลังจากนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ถูกตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้ามจากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก ปี 2018 ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน ส่งผลให้จอมพลังทีมชาติไทย พลาดลงแข่งขันในหลายรายการเพื่อเก็บคะแนนสะสม จนหมดสิทธิ์ลงชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 โตเกียวเกมส์ และล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มรสุมลูกใหญ่อีกลูกก็ถาโถมเข้ามาสู่วงการยกลูกเหล็กไทยอีกครั้ง หลังจากมีบทสัมภาษณ์ของอดีตจอมพลังสาวทีมชาติไทย ในสกู๊ปของสถานีโทรทัศน์ ARD ของเยอรมนี ได้เผยแพร่สกู๊ปเปิดโปงการใช้สารกระตุ้นต้องห้ามในวงการยกน้ำหนักโลก และการบริหารงานที่มีปัญหาของ ทามาส อาจาน ประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF ซึ่งได้ถูกนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายและอาจส่งผลต่อการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูธ โอลิมปิกเกมส์ 2026 รวมถึงกีฬารายการสำคัญอีกหลายรายการ ทำให้นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหารฯ ประกาศลาออก แบบยกชุด เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซึ่งการแสดงความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารในครั้งนี้ ทาง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า เป็นสิ่งที่ดีที่แสดงสปิริตให้ทั่วโลกได้เห็นและถือเป็นบรรทัดฐานต่อไปของวงการกีฬาไทย ขณะที่การเตรียมนักกีฬาก็จะเดินหน้าต่อไปไม่น่ามีปัญหาอย่างแน่นอน


การพัฒนาจอมพลังทีมชาติไทย ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลังจากทีมชาติไทยไม่ได้ส่งนักกีฬาไปแข่งขันในระดับนานาชาตินานกว่า 2 ปี โดยก้าวแรกต่อจากนี้ คงต้องลุ้นกันว่าใครจะมานั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักไทยคนต่อไป ในการเลือกตั้งผู้บริหารชุดใหม่วันที่ 8 มีนาคมนี้ โดยตอนนี้มีผู้สมัครชิงตำแหน่งเพียง 2 คน คือ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กับนายปรัชญา กีรตินันท์ อดีตเลขาธิการสมาคม ซึ่งแนวโน้มความเป็นไปได้น่าจะเป็น พล.ต.อินทรัตน์ ที่จะได้ครองตำแหน่งนี้ และต้องดูว่าหลังจากรับตำแหน่ง นายใหญ่คนใหม่ของวงการยกลูกเหล็กไทย จะกอบกู้ศักดิ์ศรีวงการยกน้ำหนักไทยกลับคืนมาได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก