กองทัพบก 24 ก.พ.- รองโฆษก ทบ. เผย ไฟป่าที่นครนายกแนวโน้มดีขึ้น พร้อมแจง กรณีเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าบินเข้าโรงเรียนนายร้อย จปร. เหตุเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการบิน เติมเชื้อเพลิง บำรุงอากาศยาน ยืนยัน เครื่องมือบรรเทาภัยจากทุกส่วนราชการใช้เพื่อปกป้องบ้านเรือประชาชน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลง กรณีสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณช่องยางแดง ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และขยายวงเข้าเขตพื้นที่ จ.นครนายก ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,000 พันไร่ ว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมดับไฟป่า ในส่วนกองทัพได้ระดมทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยจัดกำลังจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์, มณฑลทหารบกที่ 12 และ 18 ร่วมกับโรงเรียนเตรียมทหาร
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กองทัพบกยังสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ MI-17 2 เครื่อง บินโปรยน้ำร่วมกับเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยปฏิบัติการบิน ตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ได้บินบรรทุกน้ำจากแหล่งน้ำในบริเวณโดยรอบ ไปโปรยในพื้นที่เป้าหมายแล้ว 101 เที่ยวบิน จำนวน 320,500 ลิตร เพื่อลดความร้อนในจุดที่เพลิงลุกไหม้ ทำให้กำลังภาคพื้นดินสามารถเข้าไปดับไฟ และใช้รถบรรทุกน้ำฉีดน้ำดับไฟได้อย่างปลอดภัย เฮลิคอปเตอร์ ทั้ง 3 ลำ ใช้พื้นที่ภายในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นฐานปฏิบัติการบิน รวมถึง การเติมเชื้อเพลิง การเตรียมความพร้อมและการปรนนิบัติบำรุงอากาศยาน
ต่อกรณีที่มีการกล่าวหาว่า เฮลิคอปเตอร์บินดับไฟโปรยน้ำป้องกันเฉพาะพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เหตุที่มีผู้พบเห็นเฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มาเพื่อดับไฟ แต่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นฐานปฏิบัติการบิน ที่เฮลิคอปเตอร์ต้องเข้ามาเติมเชื้อเพลิง ปรนนิบัติบำรุงอากาศยานเท่านั้น
“ส่วนการป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้ามาในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ใช้กำลังภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นกำลังพลของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นผู้ปฏิบัติหลัก จึงขอให้เข้าใจในข้อเท็จจริง และขอยืนยันอีกครั้งว่า ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่านครนายก มีแนวทางการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน ในการนำเครื่องมือบรรเทาภัยจากทุกส่วนราชการ ที่นำมาสนับสนุนในภารกิจครั้งนี้ ไว้เพื่อการดับไฟและป้องกันพื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนประชาชนเป็นลำดับแรก” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย