ขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่อ 3 เดือน

ทำเนียบฯ 17 ก.พ.- เลขาฯ สมช. เผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประชุมมีมติขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่ออีก 3 เดือน ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.63 ถึงวันที่ 19 มิ.ย.63 สั่งเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนฯคดีความมั่นคง เน้นย้ำการปฏิบัติรอบคอบ ไม่ประมาท


พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่1/2563 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า คณะกรรมการฯ  ได้รับทราบผลการปฏิบัติงาน และสถานการณ์การก่อการร้าย จาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในห้วงระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 10 ก.พ.63  โดยมีแนวโน้มการเกิดเหตุลดลง ประชาชนได้รับการดูแลความปลอดภัยจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโต จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป 

เลขาฯ สมช. กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความสงบสุขของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  คณะกรรมการฯ จึงได้มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.63 ถึงวันที่ 19 มิ.ย.63  เป็นครั้งที่59 ตามข้อเสนอของ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า และเห็นชอบให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวน คดีความมั่นคง โดยเร่งรัด กสทช.ในการควบคุมการลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งแบบเติมเงิน และแบบรายเดือน พร้อมส่งไปยังฐานข้อมูลให้ บช.ภ.9 เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมสถานการณ์ และดำเนินคดีให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไป


“พล.อ.ประวิตร ได้สั่งกำชับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในการควบคุมสถานการณ์ และรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ มีมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว ประชาชนมีส่วนร่วม และการบังคับใช้กฏหมายที่เป็นธรรมอย่างจริงจัง  พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมพร้อมได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ และภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญยิ่ง และขอให้มีความปลอดภัยทุกนาย”พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม