“ชัยวัฒน์-พวก”เข้ารายงานตัวต่อศาลครั้งสุดท้าย

กรุงเทพฯ 3 ก.พ.- อัยการ ยังไม่ยื่นฟ้อง ชัยวัฒน์และพวก ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157  เนื่องจากรอความเห็นของอัยการสูงสุดก่อน โดยทั้ง 4 คน มารายงานตัวต่อศาลครั้งสุดท้าย


นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี และอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวกรวม 4 คน จำเลยในคดีรวมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ อายุ 31 ปี นักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2557  เดินทางมารายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามกำหนดฝากขังผัดสุดท้ายระหว่างที่รออัยการสั่งฟ้องคดี

สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหากับจำเลยทั้ง 4 คน รวม 8 ข้อกล่าวหา แต่อัยการเห็นควรสั่งฟ้องเพียงข้อหาเดียวคือ ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนข้อหาอื่นเห็นว่าพยานหลักฐานยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอ


ทางด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้อัยการคดีพิเศษจะยังไม่ยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้วันนี้เมื่อนายชัยวัฒน์กับพวกมารายงานต่อศาลแล้ว จะหมดอำนาจการควบคุมตัว

ทั้งนี้ อัยการจะรอความเห็นของทางดีเอสไอกลับมาก่อนว่าเห็นด้วยกับความเห็นของอัยการคดีพิเศษหรือไม่ แต่ถ้าเห็นแย้งจะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา และหากมีความเห็นอย่างไรจะนัดตัวผู้ต้องหามาสั่งฟ้องคดีในภายหลัง และเนื่องจากเห็นจำเลยในคดีนี้เป็นข้าราชการ มีตำแหน่งหน้าที่ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงรอความเห็นของอัยการสูงสุดว่าจะสั่งฟ้องในข้อหาใด

อย่างไรก็ตามระหว่างนายชัยวัฒน์และทนาย รอเจ้าหน้าที่ศาลรับแจ้งคำสั่งจากอัยการว่าจะยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ ในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ภายในกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายนี้หรือไม่ ซึ่งหากอัยการยังไม่ยื่นฟ้องในข้อหาดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ศาลจะแจ้งให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ทราบ เมื่อได้รับแจ้งจากอัยการเพื่อปล่อยตัวพ้นจากอำนาจศาลในการฝากขังคดีนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นตามขั้นตอนนายชัยวัฒน์และพวกจะยื่นขอคืนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการประกันตัวชั้นฝากขังคนละ 8 แสนบาท 


ด้านนายชัยวัฒน์ระบุสั้นๆ ไม่ทราบคำสั่งคดีของอัยการที่ชัดเจน จึงไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ทางคดีได้ในขณะนี้ ส่วนที่ปรากฎตามข่าวว่า คณะทำงานของอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องพวกตนในข้อหาร่วมกันฆ่าและข้อหาอื่นนั้น ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงจากอัยการ และตามขั้นตอนต้องรอให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ดังนั้นต้องรอให้กระบวนการดังกล่าวชัดเจนก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งอย่างไร จะให้ฟ้องทุกข้อหาหรือไม่ แต่ส่วนตัวเท่าที่ทราบตามข่าวก็รู้สึกโล่งขึ้นมาก

สำหรับที่มีคำสั่งย้ายตนกลับไปที่ สบอ.9 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา ส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผลคดีหรือไม่ ตนไม่ทราบ แค่กลับไปทำงานตามคำสั่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน