นครศรีธรรมราช 1 ก.พ.- “สมคิด” รองนายกฯ นำทีมลงพื้นที่ติดตามโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย ซึ่ง ธ.ก.ส.ขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนไปแล้วกว่า 502 ชุมชนทั่วประเทศ โดยในส่วนของพื้นที่ภาคใต้มีธุรกิจชุมชน จำนวน 27 ชุมชน
เมื่อวานที่พระวิหารทรงม้า ภายในบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เข้ากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ประกอบพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ และนมัสการพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ก่อนลงพื้นที่ นอกจากนายอุตตมแล้ว ยังมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน “ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”
ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของชุมชนในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการมอบสินเชื่อ “ธุรกิจสร้างไทยแก่ชุมชน” พร้อมร่วมรับฟังรายงานความก้าวหน้าของโครงการจาก คุณอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมกับผู้บริหารธนาคารออมสิน, ธอส., อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, อธิบดีกรมธนารักษ์, สำนักงานปฏิรูปที่ดิน, ผอ.กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ, ททท. และผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจฐานรากที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน ทั้งการผลิต การซื้อ การขายผลผลิต และการบริโภคของคนในชุมชนอย่างมีส่วนร่วม แบ่งปันผลประโยชน์อย่างเกื้อกูลและเป็นธรรม มีแนวทางในการขับชัดเจน
อีกทั้ง ธ.ก.ส. ยังได้อบรมและสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับโครงการ ธุรกิจสร้างไทยแก่ชุมชนกับพนักงานทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจชุมชนทั้ง 77 จังหวัด ผสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน
พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเพียง 0.01% ต่อปี และสินเชื่ออื่นๆ ตามแผนธุรกิจที่เหมาะสม กลุ่มเป้าหมายคือ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกร สถาบันการเงินประชาชน วิสาหกิจเพื่อสังคม วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer SMEs เกษตรที่เป็นหัวขบวน และสหกรณ์การเกษตรโดย ธ.ก.ส.ขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนไปแล้วกว่า 502 ชุมชนทั่วประเทศ โดยในส่วนของพื้นที่ภาคใต้มีธุรกิจชุมชน จำนวน 27 ชุมชน พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อให้กับ Smart Farmer, SME เกษตรวิสาหกิจชุมชน เพื่อความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก มีภูมิคุ้มกัน มีรายได้ สวัสดิการสังคม และโอกาสทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างโครงการการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสินค้าเกษตรอย่างบูรณาการ อย่างยางพาราตั้งแต่ผลิตถึงแปรรูปส่งขาย ซึ่งใน 3 อำเภอของนครศรีธรรมราช มีมูลค่าการลงทุนกว่า 69 ล้านบาท และ Working Cap กว่า 116 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการปรับการปลูกยางสู่การปลูกไผ่ การเลี้ยงโค หรือการปลูกต้นกาแฟ ต้นปาล์มคุณภาพยกระดับชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ระนอง ชุมพร พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ด้วย รวมทั้งการผลิตมังคุดคุณภาพ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี บ้านควนสวรรค์ จ.ตรัง ที่รวมกลุ่มกันทาผ้าฝ้ายทอมือ สร้างรายได้กว่า 7,900 ล้านบาทต่อปี, พรรัตภูมิฟาร์ม เกษตรเทคโนโลยี 4.0 สร้างนวัตกรรม ฟาร์มไข่ไก่อัจฉริยะ รวมถึงชุมชนท่องเที่ยวเกาะยาวน้อย จ.พังงา และบ้านท่าข้ามควาย จ.สตูล.-สำนักข่าวไทย