นนทบุรี 29 ม.ค. – เอกชนยันหน้ากากอนามัยมีเพียงพอ วอนผู้บริโภคอย่าเก็บกักตุน กรมการค้าภายในเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจ ร้านค้าใดขายเกินราคาใช้กฎหมายเล่นงาน เริ่มส่งทีมตรวสอบตั้งแต่พรุ่งนี้
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้ผลิต ผู้นำเข้า หน้ากากอนามัย 9 บริษัท ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ผลิตและนำเข้าเกือบ 20 บริษัท แต่วันนี้มาประชุมร่วมกัน 9 บริษัท ในจำนวนนี้ 3 บริษัทเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ และอีก 6 บริษัท นำเข้าหน้ากากอนามัยจากจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 3 ราย ยืนยันไทยสามารถผลิตหน้ากากอนามัยในช่วง 4-5 เดือน เกินกว่าร้อยล้านชิ้น และคนไทยนำไปใช้ได้เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกซื้อไปเก็บกักตุน เพราะทุกฝ่ายต่างยืนยันว่ากำลังผลิตป้อนความต้องการอย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าช่วงจีนมีปัญหาโรคระบาดและไทยประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้บางพื้นที่มีความต้องการมากเกิดการขาดแคลน หากพื้นที่ใดขาดแคลนและมีหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ สามารถติดต่อสอบถามมายังกรมการค้าภายใน เพื่อประสานกับบริษัทผู้ผลิตและส่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ เท่าที่สอบถามผู้ผลิตหากเป็นหน้ากากอนามัยธรรมดาขายส่งชิ้นละ 3-10 บาท ขายปลีก 5-15 บาท จากช่วงมีความต้องการสูงอาจมีบางร้านค้าขายเกินจำนวนมาก ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นร้านใดขายเกินกว่าราคานี้มากเกินไปสามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ทางกรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจตรวจสอบ หากค้ากำไรเกินควรจะส่งดำเนินคดีทางกฎหมายทันที โทษการขายหรือกักตุนรุนแรง ขายเกินราคาปรับตั้งแต่ 140,000 บาท จับคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ปกติการใช้หน้ากากอนามัยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 30-40 ล้านชิ้น แต่ขณะนี้เกิดโรคระบาดและบางพื้นที่มีชาวจีนซื้อหน้ากากอนามัยจำนวนมากอาจทำให้เกิดการขาดแคลน
“ขอย้ำว่าขณะนี้ไม่มีความจำเป็นซื้อหน้ากากอนามัยไปกักตุน หากเป็นเช่นนี้จะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน ทางผู้ผลิตยืนยันแม้สินค้าจะเพียงพอต่อความต้องการ หากซื้อกักตุนจำนวนมาก การผลิตไม่ทันความต้องการ จะทำให้สินค้าขาดแคลนมากขึ้น จากจำนวนหน้ากากอนามัยที่มากกว่าร้อยล้านชิ้นรองรับความต้องการใช้ของคนไทยทั้งประเทศนาน 4-5 เดือน จึงไม่มีความจำเป็นที่ผู้บริโภคซื้อหน้ากากอนามัยมากักตุน เพราะขณะนี้ปัญหาโรคระบาดในประเทศจีนและฝุ่น PM 2.5 แต่ละประเทศหาทางป้องกัน เชื่อว่าจะไม่นานและจบลงเร็ว” นายประโยชน์ กล่าว
ส่วนผู้บริโภคร้องเรียนว่าขณะนี้หน้ากากอนามัยโดยเฉพาะ N95 มีหลายประเภทและหลายราคา ผู้ผลิตแจ้งว่าราคาจำหน่ายขายส่งต่อชิ้น 27-70 บาท เมื่อขายปลีกจะอยู่ที่ 50-100 บาทเท่านั้น หากพื้นที่ใดขายเกินราคานี้ให้ประชาชนแจ้งสายด่วน 1569 เพราะขณะนี้กรมฯ มีต้นทุนขายส่งและขายปลีกสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่ใดต้องการมากและยังไม่เพียงพอ นอกจากเร่งประสานผู้ประกอบการแล้วยังมีแนวทางจัดโครงการหน้ากากธงฟ้าร่วมกับผู้ผลิตจำหน่ายพื้นที่ต่าง ๆ แต่ขณะนี้ขอพิจารณาตามความเหมาะสมก่อน.-สำนักข่าวไทย