“มนัญญา” เห็นใจลูกจ้างกรมวิชาการเกษตรถูกเลิกจ้าง

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – “มนัญญา” เห็นใจลูกจ้างกรมวิชาการเกษตรถูกเลิกจ้าง ลั่นอธิบดีฯ ต้องเร่งแก้ไขไม่ให้กระทบภารกิจหลักและจัดปริมาณงานให้สมดุลกับงบประมาณ 


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่ต้องกำหนดปริมาณงานให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับ การที่ถูกตัดงบประมาณกว่า  600 ล้านบาทนั้น เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภารกิจหลัก รวมทั้งต้องเลิกจ้างลูกจ้างตามสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรทั้ง 8 เขต รวมถึงศูนย์วิจัยฯ ระดับจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งได้ย้ำให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

ทั้งนี้ ในการประชุมพิจารณางบประมาณปี 2563 ของสภาผู้แทนราษฎรนั้น กรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเรื่อง ราคาเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมวิชาการเกษตรที่สูงกว่าราคาซื้อมากจนเป็นสาเหตุให้ตัดงบลงกว่า 40% จากที่ขอไปกว่า 1,200 ล้านบาท โดยได้ทำหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วว่ามีการทุจริตหรือไม่


“รู้สึกเห็นใจลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างหรือลดเงินเดือนลงถึงครึ่งหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่ต้องแก้ไข รวมทั้งบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับให้สอดคล้องกับปริมาณงาน โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักและการบริการประชาชน” น.ส.มนัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยสอบถามไปยังสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตต่าง ๆ และศูนย์วิจัยฯ หลายจังหวัดได้รับข้อมูลจากข้าราชการว่า งบประมาณที่ถูกตัดลดนั้นส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักและการบริการประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยภารกิจตามแผน ประกอบด้วย งานวิจัยด้านวิชาการเกษตร การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์พืชที่มีคุณภาพ การให้บริการด้านการรับรองมาตรฐานและการตรวจสอบสถานจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตร รวมถึงโครงการพระราชดำริต่าง ๆ 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งเข้าสู่ปีงบประมาณ 2563 แต่งบประมาณยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ นั้น ทางกรมวิชาการเกษตรได้จัดสรรเงินมาให้จำนวนหนึ่ง โดยประมาณการณ์จากงบที่ใช้ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเงินที่ได้รับจัดสรรบางส่วนหมดหรือใกล้หมดแล้ว เช่น งานตรวจสอบแปลงเพื่อออกใบรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) งานออกใบรับรองมาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ (GMP) แก่โรงคัดบรรจุเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการใช้สำหรับส่งออกสินค้าเกษตรไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ขณะนี้มีหลายรายรออยู่ แต่ดำเนินการช้า เนื่องจากจำนวนบุคลากรส่วนที่เป็นลูกจ้างลดลงและงบประมาณสำหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่เหลือน้อยมาก หากไม่ได้รับการแก้ไขอาจกระทบต่อการให้บริการประชาชนและไม่เพียงพอใช้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 วันที่ 30 กันยายน 


ก่อนหน้านี้ น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของกรมวิชาการเกษตรลงกว่า 40% ว่า เป็นการตัดลดงบประมาณการดำเนินงาน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงบลงทุนในการจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณโดยปรับแผนให้มีความสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ โดยให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทบทวนและจัดลำดับความสำคัญรายละเอียดของงานโดยเฉพาะงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมวิชาการเกษตร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  งานด้านบริการที่มีผลกระทบต่อประชาชนและการส่งออก เช่น การตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) โรงงานแปรรูป  โรงรม (GMP)  การตรวจสอบปัจจัยการผลิต  ศัตรูพืช  และออกใบรับรองบริการวิชาการด้านพืช การผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล เพื่อจำหน่ายและจ่ายแจกให้แก่เกษตรกร เช่น มันสำปะหลัง  ข้าวโพด  รวมทั้งพืชตระกูลถั่วที่ใช้น้ำน้อย งานบริการทั้งหมดนี้จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด  ส่วนงานอื่น ๆ ให้พิจารณาปรับลดปริมาณงานตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับ  

ทั้งนี้ ในการพิจารณางบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 9 มกราคม คณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สภาผู้แทนราษฎรได้ปรับลดงบประมาณของกรมวิชาการเกษตรที่เสนอไป 1,277 ล้านบาท เหลือ 635 ล้านบาท หลังพบข้อผิดปกติการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสำนักงบประมาณเเจ้งว่าค่าจัดซื้อเพียง 17,000 บาท แต่กรมวิชาการเกษตรใช้วิธีเช่าเครื่องละ 60,000 บาทต่อปี ระยะเวลา 5 ปี รวมเป็น 300,000 บาทต่อเครื่อง กรรมาธิการยังระบุว่าเดิมในเอกสารงบประมาณ กรมวิชาการเกษตรชี้เเจงว่าค่าเช่าคอมพิวเตอร์เครื่องละประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน จึงเชิญอธิบดีกรมวิชาการเกษตรมาซักถามและให้กลับไปทบทวนใหม่ ต่อมากรมวิชาการเกษตรแก้ไขเอกสารแล้วส่งกลับมาเหลือเพียงเครื่องละ 800 บาทต่อเดือน โดยให้เหตุผลว่าเอกสารชุดเเรกที่ส่งมาให้คณะกรรมาธิการนั้นผิดพลาด จึงมีข้อสังเกตว่าตั้งงบหลอกกรรมาธิการหรือไม่ จนเป็นสาเหตุตัดลดงบประมาณของกรมวิชาการถึง 642 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]