KTAM วางแผนธุรกิจปีหนู เล็งรุกกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ

กัมพูชา 20 ม.ค. – บลจ.กรุงไทย ตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการปีนี้โต 12% รุกส่งกองทุนลงทุน ตปท. หลังโตสองหลักเกือบทุกกองทุนในปี 62 โดยมองดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อยู่ที่ ร้อยละ 1 



นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2563 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) เพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท หรือเติบโตราว 12% จากปี 62 ที่อยู่ที่ 827,313 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นกลยุทธ์ใน 3 ส่วน ได้แก่ ให้ความสำคัญในการกระจายพอร์ตการลงทุนและการบริหารจัดการกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ ที่บริษัทฯ มองว่ายังเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ มองเห็นโอกาสในการเติบโตไปในเชิงบวก ซึ่งในปี 62 ที่ผ่านมาพบว่ากว่า 97% ของกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศของบริษัทฯ มีการเติบโตเกือบทั้งหมด และส่วนใหญ่เติบโตระดับ 2 หลัก และในปีนี้บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้ารุกผลิตภัณฑ์กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งได้มีการคัดเลือกมาอย่างดีและกระจายความเสี่ยง โดยมีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ 


ทั้งนี้ ยังมีความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) โดยเฉพาะในด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อให้บริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมาธุรกรรมกองทุนของบริษัทฯ ที่เกิดขึ้นผ่านแอพพลิเคชั่น Next ของธนาคารกรุงไทย มียอดซื้อกว่า 14,000 ล้านบาท และธุรกรรมกองทุนที่เกิดขึ้นผ่านแอพพลิเคชั่น KTAM Smart Trade มียอดซื้อกว่า 8,000 ล้านบาท โดย KTAM จะยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในการทำธุรกรรมให้ดียิ่งขึ้น

ส่วนแนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ ในปีที่ผ่านมา KTAM ได้เปิดตัว LINE@ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาความรู้ บทความและเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุน ตอบสนองในการเป็นที่ปรึกษา และมีนักลงทุนที่สนเป็นผู้ติดตามมากกว่า 235,000 ราย รวมถึง Facebook ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 180,000 ราย และสำหรับในปีนี้ KTAM จะมุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่ง่ายและเข้าถึงผู้ลงทุนทั่วไปมากยิ่งขึ้น 

บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดจำหน่ายกองทุนควบประกันสุขภาพในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นขออนุมัติจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)   ขณะที่บริษัทฯ ก็มีความพยายามที่จะออกกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ให้ได้ในช่วงกลางปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบซึ่งการนำเสนอจะต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก 


ด้านการลงทุนโดยรวมในปีนี้มองว่าตราสารหนี้ยังเติบโตได้ เพราะถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งขณะ เดียวกันก็เชื่อว่าตลาดหุ้นในประเทศไทยจะมีการเติบโต จากกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทเติบโตดีขึ้น

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การลงทุน KTAM กล่าวว่า การจัดพอร์ตการลงทุน บริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนกระจายความเสี่ยง ไปในหลายสินทรัพย์และหลายภูมิภาค เนื่องจากตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้นในระยะหลัง การจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยในช่วงต้นปียังคงมองว่าสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังนักลงทุนคลายความกังวลการเกิดภาวะถดถอย จึงเน้นให้ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอาจเน้นการลงทุนมาในกลุ่มประเทศเกิดใหม่  ที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดกว่า รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ในระยะถัดไป นักลงทุนอาจต้องระวังแรงขายทำกำไร และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ KTAM กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.8% ดีขึ้นกว่าในปีก่อนที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.4% โดยแรงขับเคลื่อนหลักๆ มาจากงบประมาณปี 2563 ที่ผ่านสภาฯ นโยบายการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ภาวะดอกเบี้ยต่ำยังถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญอีกประการ แต่มองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความท้าทายในหลายๆ ด้าน ทั้งปัจจัยระยะยาวอย่างปัญหาประชากรสูงวัย และการเข้ามามีบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี  และปัจจัยระยะสั้น อย่างค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ความเสี่ยงของการขยายตัวเศรษฐกิจโลก และปัญหาปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำ ทำให้คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจมีลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 1.00%  และมองกรอบดัชนีปีนี้ที่ 1,700 จุด โดยคาดกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะโตราว 6 %  มีสัดส่วน P/E ประมาณ 18 เท่า  ขณะที่มองว่า การลงทุนในทองคำยังมีมุมมองเชิงบวก แม้ระยะสั้นจะมีความผันผวน และย่อตัวลงบ้างแต่การที่เงินดอลลาร์ยังจะมีทิศทางอ่อนค่า จะทำให้ทองคำเป็นสินทรัยพย์ที่น่าสนใจ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน