กรุงเทพฯ 14 ม.ค.-ครบรอบ 30ปีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดระหว่าง 23-25 เม.ย.นี้ ภายใต้แนวคิด Women Revolutionizing Economies พลังสตรีพลิกเศรษฐกิจ โดยจะมีผู้นำสตรีจากทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมกว่า 1,000 คน เข้าร่วมประชุม
น.ส.ไอรีน นาทิวิแดท (Irene Natividad) ประธานจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก กล่าวว่า นอกจากประเทศไทยจะมีความสวยงามติดอันดับโลกยังโดดเด่นเรื่องการมีส่วนร่วมของสตรีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากการเป็นแรงงาน ผู้ประกอบการ จนถึงการเปลี่ยน แปลงโครงสร้างธุรกิจ (Business Model) และในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ นับว่ามีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และมุ่งเน้นการส่งเสริมความเสมอภาคทางเศรษฐกิจให้กับสตรีทั่วโลก
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและประธานกรรมการจัดงานของไทย กล่าวว่าตั้งใจให้การประชุมนี้พิเศษสมกับเป็นการฉลอง 30ปีของการประชุมสตรีโลก โดยจะเน้นการประชุมเพื่อสิ่งแวดล้อม Carbon Neutral พร้อมนำเสนอสินค้าชุมชนท้องถิ่นจากทั่วประเทศไทย สร้างโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นพัฒนาเป็นนักธุรกิจระดับนานาชาติและยังเชื่อมั่นว่าในการประชุมครั้งนี้จะก่อเกิดพลังสตรีไทย ในการเรียนรู้และเติบโตจากสตรีผู้นำจากทั่วโลก พัฒนาเครือข่ายความเข้มแข็งทางธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือของคนทุกภาคส่วน สร้างคนรุ่นใหม่ รวมพลังไทย อาเซียน และโลก ที่จะปฏิวัติเศรษฐกิจ เพื่อโลกที่ดีขึ้น
ขณะที่นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกาตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020 เป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะเน้นย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย และเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสตรี ซึ่งททท.มีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าวอย่างจริงจังเนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ปัจจุบันสัดส่วนของผู้หญิงทำงานเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้ชาย และเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ผู้หญิงจึงกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่และเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และนางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนงาน Global Summit of Women 2020 และได้ต้อนรับผู้บริหารระดับสูงกว่า1,000 คนจากทั่วโลกที่จะสร้างรายได้ประมาณการ 80 ล้านบาท การสนับสนุนสอดคล้องกับนโยบายขององค์กรในการใช้อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการพัฒนาวิชาชีพในสาขาต่างๆและเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อมั่นว่างาน Global Summit of Women 2020 และความตื่นตัวและร่วมมือของภาคธุรกิจไทย จะทำให้ผู้ร่วมประชุมจากทั่วโลกได้ตระหนักถึงศักยภาพของประเทศไทยและบทบาทของนักธุรกิจสตรีไทยในการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของให้ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายชั้นนำในการจัดประชุมนานาชาติเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับสากลต่อไป
ทั้งนี้ ในการเปิดประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วยรัฐมนตรีหญิงจากประเทศต่างๆ พร้อมกันนี้ในงานจะมีการมอบรางวัลผู้นำดีเด่นระดับโลกในการส่งเสริมสตรีทางธุรกิจและเศรษฐกิจด้วย
สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก2020 ถือเป็นเวทีระดับโลกที่มีความสำคัญเชื่อมนักธุรกิจ นักวิชาชีพ ผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคสังคมจากทั่วโลก สร้างเครือข่ายความร่วมมือและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกอย่างยั่งยืน จะมีผู้นำสตรีจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก กว่า 1,000 คน และวิทยากรผู้บรรยายในระดับรัฐมนตรีและนักธุรกิจระดับโลกจากภาคเอกชนและองค์กรชั้นนำเข้าร่วมประชุม และในปีนี้ยังมีความสำคัญเนื่องจากเป็นปีฉลองครบรอบ 30 ปีของการจัดประชุม จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยสู่เวทีโลก และตอกย้ำว่าไทยให้ความสำคัญต่อบทบาทของสตรีในภาคธุรกิจที่เป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเป็นศูนย์ประชุมในระดับโลกไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย