พังงา 14 ม.ค. – นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันถูกฉลามกัดขาเป็นแผลเหวอะหวะ ขณะลงเล่นน้ำในทะเล บริเวณหาดนางทอง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
กรณีมีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวถูกปลาขนาดใหญ่กัดบริเวณขา จนเป็นแผลเหวอะหวะ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผู้สื่อข่าวช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 12 มกราคม 2562 ซึ่ง น.ส.จิตติมา คงพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รายงานเหตุการณ์มีนักท่องเที่ยวชายชาวเยอรมันลงเล่นน้ำในทะเล บริเวณหาดนางทอง ก่อนจะถูกปลาขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิดกัดบริเวณขาขวา มีแผลฉีกขาด และรอยฟันขนาดใหญ่ ก่อนนำตัวส่งทำความสะอาดแผล ที่ศูนย์การแพทย์เขาหลัก และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน จ.ภูเก็ต
เบื้องต้นพบว่า ผู้ประสบเหตุเป็นชายชาวเยอรมัน ชื่อ Mr.Malten Hans-Peter อายุ 75 ปี โดยขณะลงเล่นน้ำกับภรรยา ซึ่งห่างจากฝั่งประมาณ 6-7 เมตร มีปลาขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิดพุ่งเข้ากัดบริเวณขาขวาจนฉีกขาด เป็นแผลยาวประมาณ 20 ซม. ทีมแพทย์ระบุว่า เส้นเอ็นบริเวณขาขวาฉีกขาด ซึ่งได้ประสานและเย็บแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้นักท่องเที่ยวอาการดีขึ้นมาก หากแผลไม่อักเสบ แพทย์จะอนุญาตให้กลับได้ ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวยังลงเล่นน้ำกันตามปกติ
ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เหตุการณ์ฉลามกัดในไทยเกิดนานๆ ครั้ง เช่น ที่ภูเก็ต (ปี 60) ที่เกาะเต่า (ปี 61) เกือบทุกครั้งถูกกัดที่ขา แต่ไม่สาหัส ฉลามที่กัดอาจเป็นฉลามหัวบาตร เพราะฉลามหูดำน่าจะเป็นรอยเล็กกว่านี้ และไม่ค่อยโจมตีสัตว์ใหญ่กว่า ฉลามจู่โจมอาจด้วยความเข้าใจผิด เพราะชายฝั่งน้ำขุ่น พอเห็นวูบก็นึกว่าเป็นเหยื่อ แต่เมื่อกัดแล้วรู้ว่าไม่ใช่ก็เลยหนีไป
สำหรับฉลามหัวบาตร อาจพบได้ตามชายฝั่งทั้งอ่าวไทยและอันดามัน แต่ไม่บ่อยนัก ไม่มีผู้ถูกฉลามจู่โจมจนเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในทะเลไทยมากว่า 50 ปีแล้ว ที่ผ่านมาในประเทศไทย ฉลามไม่เคยโจมตีรายอื่นซ้ำที่เดิม ส่วนคำแนะนำ คือ ไม่ต้องกังวลมาก ไม่ต้องทำข่ายกั้น ฯลฯ แต่ระวังไว้นิด หากต้องลงน้ำตอนเช้าตรู่ หรือตอนค่ำ/กลางคืน. – สำนักข่าวไทย