ขนส่งทางบก ฯเผยยอดร้องเรียนรถสาธารณะ 241 รายแล้ว

กรุงเทพฯ
31 ธ.ค.-กรมการขนส่งทางบก เผย 4 วันแรก เทศกาลปีใหม่  ได้รับการร้องเรียนการให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารฯ
1584 รวม 241 ราย เร่งติดตามตัวเพื่อสอบสวนและเปรียบเทียบปรับทุกรายหากพบการกระทำผิด
แจ้ง 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง 


 

นายจิรุตม์
วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการของศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน1584
ทั้งทางสายด่วน 1584 และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ (ชั่วคราว)
ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ 
เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่และร่วมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ดูแลความปลอดภัย พร้อมให้คำแนะนำในการเดินทาง
ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เฉพาะวันที่ 26- 29
ธันวาคม 2562 ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะ จำนวน 241 ราย
ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับรถประมาทหวาดเสียว ทิ้งผู้โดยสาร ไม่จอดรับผู้โดยสาร
ผู้ประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย


 

ซึ่งกรมการขนส่งทางบกเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายทุกรายในทุกกรณีความผิด
พร้อมกำชับผู้ประกอบการและพนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคนนำประเด็นร้องเรียนต่างๆไปปรับปรุง
แก้ไขปัญหาการให้บริการอย่างทันที ทั้งนี้
หากประชาชนหรือผู้โดยสารพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ พบการกระทำความผิด
เรียกเก็บค่าโดยสารเกินกำหนด หรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 (ชั่วคราว)
ที่จัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ โทร.1584
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกปัญหาการร้องเรียน กรมฯ จะเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยทันที
พร้อมทั้งแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบโดยตรงทาง
SMS ภายใน 
1 – 2 วัน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ร้องเรียนระบุรายละเอียดรถและ
ผู้ขับรถคันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ
ซึ่งจะทำให้กระบวนการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นไปด้วยความรวดเร็ว


 

 โดยกรมฯ
มีมาตรการลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายขั้นสูงสุดทุกกรณี
พร้อมส่งตัวเข้ารับการอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกการให้บริการ
และบันทึกประวัติการกระทำผิดไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ
สำหรับตรวจสอบการกระทำความผิดซ้ำซาก
เพื่อพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป
และสำหรับความผิดอาญาหรือทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง เช่น
การขู่กรรโชก ทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร กระทำอนาจาร ดัดแปลงมาตรค่าโดยสาร
ส่งตัวดำเนินคดีและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
ทั้งนี้ในช่วงของการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่
สำหรับประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลขอให้ใช้ความระมัดระวังตลอดการใช้รถใช้ถนน
โดยเฉพาะห้ามขับรถขณะมีอาการมึนเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด
เนื่องจากทำให้ความสามารถในการขับรถลดลง ไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที

 

 ทั้งนี้ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ
เพราะนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วย
โดยควรเลือกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะแทนการขับรถเอง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน
เพื่อให้การเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2563 เป็นเทศกาลแห่งความสุขอย่างแท้จริง .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”