รัฐสภา 24 ธ.ค.- รัฐสภาเห็นชอบ ร่างข้อบังคับการประชุม ฝ่ายค้านชี้ ข้อที่ 58 เกี่ยวกับนับคะแนนใหม่เป็นปัญหา แนะกำหนดเงื่อนไขให้ชัด
ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 ของสมัยประชุมสามัญครั้งที่ 2 ได้พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงหลักการที่ต้องมีการตราข้อบังคับเพื่อใช้สำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยสาระสำคัญส่วนใหญ่ยังคล้ายคลึงกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเมื่อปี 2553 แต่มีการแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560
สมาชิกรัฐสภาหลายคนอภิปรายถึงปัญหาการใช้ข้อบังคับ โดยเฉพาะข้อที่ 58 เกี่ยวกับการขอให้มีการนับคะแนนใหม่ โดยให้ใช้วิธีการลงคะแนนขานชื่ออีกครั้ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ชี้ว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่นเดียวกับนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ชี้ว่าเป็นปัญหาทำให้ไม่สามารถจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้มาตรา 44 ต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัด ว่าให้นับคะแนนใหม่เฉพาะการลงคะแนนไม่ถูกต้อง เที่ยงธรรม และต้องนับคะแนนจากองค์ประชุมเดิมเท่านั้น ไม่ควรเปิดให้มีการลงคะแนนเพิ่มเติม
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล อภิปรายยืนยันว่าไม่ควรมีการแก้ไขข้อบังคับข้อที่ 58 กรณีขอให้นับคะแนนและขานชื่อใหม่ เพราะเป็นหลักการที่ใช้มานานแล้ว และสอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่นายขจิตชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงข้อที่ 5 เห็นควรเพิ่มข้อความเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางของประธานที่ประชุม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ซึ่งเหนือกว่าข้อบังคับก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และประธานสภาเกือบทุกคนที่ทำหน้าที่ก่อนตนก็วางตัวเป็นกลาง แม้จะไม่ทุกคนก็ตาม
หลังอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมมีมติ 598 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา
ที่ประชุมรัฐสภายังเห็นชอบเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ได้แก่ พิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียนฉบับที่ 4 พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยเป็นการพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี และร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลีราชอาณาจักรไทย สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม.-สำนักข่าวไทย