กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.-เลขาฯ ป.ป.ช. ระบุ “ปารีณา” ขอแก้ไขตัวเลขที่ดิน ภบท.5 ได้ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ต้องอนุมัติก่อน ต้องพิจารณาเจตนาในการของแก้ไข
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าทำหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช.แจ้งขอแก้ไขรายการในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เนื่องจากเกิดความผิดพลาดและซ้ำซ้อน ในเอกสาร ภบท.5 ที่ได้ยื่นภาษีไปในปี 2549 ได้แจ้งซ้ำซ้อนกลับเอกสาร ภบท.5 ที่ได้ยื่นภาษีในปี 2553 ทำให้มีที่ดินเพิ่มขึ้น กว่า 1,000 ไร่ ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่รวมประมาณกว่า 600 ไร่เท่านั้น ว่า ตามกฎหมายของ ป.ป.ช.ผู้ยื่นสามารถขอแก้ไขได้ แต่ ป.ป.ช.จะอนุญาตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ การขอแก้ไขตัวเลขที่ผู้ยื่นระบุมานั้น สามารถขอแก้ไขได้ แต่ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีพฤติการณ์เชื่อว่าเจตนาหรือไม่เจตนา เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วส่งผ่านมายังตน ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อนที่จะสรุปเรื่องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจสอบในพื้นที่เพิ่งกลับมา จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่สรุปเรื่องก่อน
“ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินมีสิทธิ์ที่จะขอแก้ไขได้ แต่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบเหตุที่ขอแก้ว่าเป็นไปโดยเจตนาหรือไม่ มีความเป็นธรรมอย่างไร ส่งมาที่ผม ผมก็ชงเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่เพิ่งกลับมา ยังไม่ได้ส่งมาให้เลย แต่เชื่อว่าน่าจะได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยผมจะสอบถามและย้ำว่าให้ส่งมาภายในสัปดาห์นี้” นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ตามระเบียบ ป.ป.ช.มีระยะเวลาในการทำงานอยู่ว่าการตรวจสอบยืนยันข้อมูลจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 180 วัน หลังจากการอนุมัติให้เดินทางไปตรวจสอบ โดยการไปตรวจสอบนั้น ไม่ได้ดูเรื่องที่ดินอย่างเดียว แต่ตรวจสอบทรัพย์สิน 9 รายการ หนี้สิน 4 รายการ ก่อนที่จะสรุปและเสนอรายงานขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจสอบทรัพย์สิน ส.ส.กรณีถือครองที่ดิน ภบท.5 จะดำเนินการไปถึง ส.ส.อีกกว่า 10 รายที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ยื่น ภทบ.5 และระบุราคาเกินจริงด้วยหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในเบื้องต้นอยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบัญชีนั้น ๆ หากเห็นว่ามีพฤติการณ์หรือมีเหตุอันสมควร ก็จะขออนุมัติตรวจสอบจากผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งมีอำนาจในการอนุมัติให้ตรวจสอบ จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบ แต่เชื่อว่าเมื่อเป็นข่าวมากขนาดนี้ เจ้าหน้าที่คงรีบดำเนินการตรวจสอบบัญชีของ ส.ส.ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย ดังนั้น หากไม่มีผู้ร้อง เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะเป็นกรณีที่สังคมสนใจ อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ยื่นร้องมา ก็สามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย
