BIG STORY : ย้อนไทม์ไลน์คดีฆาตกรรมโหด 2 ครูระยองชิงบิ๊กไบค์

ระยอง, เชียงใหม่ 30 พ.ย.-ย้อนไทม์ไลน์คดีสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมโหดสามีภรรยาซึ่งเป็นครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ก่อนที่คนร้ายจะชิงบิ๊กไบค์ผู้ตายหลบหนี แต่ไม่พ้น ถูกจับกุมได้ในที่สุด


ย้อนดูลำดับเหตุการณ์ คดีสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมโหดสามีภรรยา ซึ่งเป็นครูโรงเรียนเอกชน คือนายอโลชา สุภานิชย์ อายุ 33 ปี และ น.ส.สุปรียา เพียรงาม อายุ 33 ปี เสียชีวิตในบ้านพักจังหวัดระยอง ก่อนคนร้ายจะชิงบิ๊กไบค์ดูคาติหลบหนี และถูกจับกุมได้ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อเช้าที่ผ่านมา    


28 พ.ย.2562 | ตำรวจ สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งว่าพบศพชายหญิงรวม 2 ราย คือนายอโรชา หรือ ครูเอ็ม และ น.ส.ปรียาภรณ์ หรือครูแนน ถูกฆาตกรรมในบ้านพักเลขที่ 111/34 ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องแต่งตัวชั้น 2 ของบ้าน ในบ้านพบข้าวของกระจัดกระจาย และมีรอยเลือดทั่วบ้าน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบพบมีรอยเลือด ลักษณะลากจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน และรอยเท้าของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ของผู้ตาย และมีกระดาษโน๊ตใบเล็กแปะอยู่ที่ประตูบ้าน เป็นข้อความที่เขียนในทำนอง …”จะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก เก็บเสื้อผ้าของมึงไปด้วย ให้น้องมึงเอารถมาคืนกูด้วย” ทำให้เบื้องต้นตำรวจตั้งปมสังหารไว้ที่ฆ่ากันเองจากปัญหาพนันบอลออนไลน์ ฝ่ายชายทะเลาะกับฝ่ายหญิง เพราะฝ่ายชายติดหนี้พนันบอลออนไลน์ โดยมีการขอยืมเงินแม่บุญธรรม เพื่อใช้หนี้ ครั้งละ 50,000 – 70,000 บาท หลายครั้ง และล่าสุดไปขออีก 180,000 บาท เพื่อใช้หนี้ จากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เงินก็ถูกโอนออกไป 100,000 บาท และปมเรื่องถูกจัดฉากจากคนร้ายเพราะจากการสอบปากคำเพื่อนครูให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าลายมือในกระดาษโน๊ต ไม่ใช่ลายมือของผู้ตายทั้ง 2 คน และก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีการประกาศขายบิ๊กไบค์ในเฟซบุ๊ก ทำให้คดียังมีข้อพิรุธหลายประการ


29 พ.ย.2562 | ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านพบชายต้องสงสัย คาดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของครูทั้งสอง จากนั้นได้รวบรวมหลักฐาน ขอศาลจังหวัดระยองออก หมายจับนายศุภกฤต สุจาศรี อายุ 22 ปี ชาวเชียงใหม่ ในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบเห็นชายต้องสงสัยเดินวนเวียนในคืนวันเกิดเหตุ คาดว่านายศุภกฤต เข้าไปแล้วเห็นผู้ตายทะเลาะกัน จึงสบโอกาสเมื่อฆ่าแล้วเขียนข้อความอำพรางให้ตำรวจคิดว่าทั้งสองทะเลาะและฆ่ากันเอง ต่อมาเย็นวันเดียวกัน ตำรวจตามยึดบิ๊กไบค์ดูคาติได้จากร้านรับซื้อรถบิ๊กไบค์แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี หลังพบข้อมูลว่า นายศุภกฤตนำไปฝากขาย พร้อมเชิญตัวลูกเจ้าของร้านมาสอบปากคำ ซึ่งให้การยืนยันรับซื้อรถคันดังกล่าวมาจากผู้ต้องหา ที่มีการติดต่อกันทางเฟซบุ๊กและแอดไอดีไลน์มาหา โดยคุยกันและมีการตกลงซื้อขายบิ๊กไบค์ 3 แสนบาทเศษ โดยมีการส่งภาพรถมาให้ดูและหลักฐานการซื้อขายแบบโอนลอยมีหลักฐานครบ แต่ไม่รู้มาก่อนว่ารถเป็นของกลางเหตุฆ่ากันตาย ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆาตกรรมครั้งนี้ ขณะเดียวกันกำลังสืบสวนอีกชุด ได้ประสานกับตำรวจภูธรภาค 5 ไปตามตัวผู้ต้องหา ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เบื้องต้นไม่พบตัว 

30 พ.ย.2562 | ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 5 ร่วมกับตำรวจสืบสวนภูธรระยอง จับกุมนายศุภกฤต สุจาสี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้พร้อมกับนายภานุพงษ์ บัวรอด หรือโม เพื่อน โดย นายภานุพงษ์ ได้ขณะขับรถยนต์เก๋ง พานายศุภกฤต ไปส่งบริเวณด่านชายแดนบ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้ามืด ก่อนถูกจับกุม และ ควบคุมตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สอบสวนนายภานุพงษ์ รับสารภาพว่า นายศุภกฤต เป็นเพื่อนเก่าอ้างว่า มาจากต่างจังหวัด จึงชวนมาเลี้ยงฉลอง โดยนายศุภกฤต ขายรถบิ๊กไบค์ที่ชิงมาทางออนไลน์ ได้ในราคากว่า 3 แสนบาท แล้วนั่งเครื่องบินมาที่เชียงใหม่ และยังสั่งซื้อรถบิ๊กไบค์ทางออนไลน์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นนินจา 1000 ซีซี นำมาใช้ และชวนเพื่อนไปฉลอง จนกระทั่งตกเป็นข่าว จึงได้ซื้อรถยนต์เก๋ง จากตลาดมืดทางอินเตอร์เน็ต นำมาส่งที่เชียงใหม่ ส่วนรถบิ๊กไบค์นำไปจอดทิ้งไว้ ลานจอดรถห้างค้าปลีกในตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นพากันขับเก๋งหลบหนีไปที่บริเวณแนวชายแดน จนกระทั่งถูกจับกุมคารถ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้ต้องหา กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ พร้อมทั้งนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย  

ขณะที่นายศุภกฤต ผู้ต้องหาได้ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องจากสนามบินเชียงใหม่ มาที่สนามบินดอนเมือง โดยมีชุดสืบสวนตำรวจภูธรระยอง มารอรับตัวขึ้นรถตู้กลับไปสอบสวน เมื่อเวลา 15 .00 น.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คุมผู้ต้องหาฆ่าโหด ‘ครูผัวเมีย’ ขโมยบิ๊กไบค์สอบต่อที่ระยอง

• รวบแล้ว! “ศุภกฤต” ฆ่าชิงทรัพย์ครูสามีภรรยาดับที่ระยอง

• สืบภาค 2 ยึดบิ๊กไบค์คดีฆ่าครูระยองถูกนำมาขายที่ชลบุรี

• เร่งคลี่ปมครูสามีภรรยาเสียชีวิตในบ้านพัก จ.ระยอง

• ครูเอกชนถูกแทงดับ 2 ในหมู่บ้านจัดสรรเมืองระยอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย