กทม. 20 พ.ย.- ‘พล.อ.ประวิตร’ รองนายกรัฐมนตรี ย้ำในการประชุมบอร์ดโอลิมปิคฯ เดินหน้าผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิก ในปี 2026
วันนี้ (20พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ถนนศรีอยุธยา ก่อนการประชุมมีพิธีมอบเงินบริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์ทาง การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลของรัฐที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม และโรงพยาบาลตามแนวชายแดนตามมาตรฐานทางการแพทย์ จำนวน 4 แห่ง จำนวนเงิน 1,300,000 บาท จากการจัดกิจกรรม เดิน-วิ่ง 2019 Olympic Day เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2562
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานการเตรียมความพร้อม เพื่อจัดการแข่งขันกีฬา เอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาเชียลอาร์ต เกมส์ ในปี 2021 และความก้าวหน้า การติดตามและเก็บข้อมูล เพื่อเป็นการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิคครั้งที่ 5 ในปี 2026 และรับทราบรายงานผลการแข่งขันกีฬา และการประชุมต่างๆ และเรื่องการ ขออนุมัติจัดส่ง คณะนักกีฬาทีมชาติไทย เดินทางไปร่วมการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่30 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการ โอลิมปิคแห่ง ประเทศไทยฯ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย-ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ พัฒนาและแลกเปลี่ยนด้านกีฬา กับคณะกรรมการ โอลิมปิกแห่งรัฐกาตาร์ และ ศูนย์ฝึกกีฬาเพื่อความเป็นเลิศของกาตาร์ ที่ทำผลงานการแข่งขันกีฬาโดดเด่น ซึ่งการลงนามร่วม 4 ฝ่ายนี้ จะครอบคลุมในทุกมิติเพื่อพัฒนาและส่งเสริมกีฬาของทั้ง 2ประเทศ ในด้านต่างๆ ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรกีฬา การศึกษาวิจัย แลกเปลี่ยนข้อมูล และประสบการณ์ ด้านพัฒนาการก่อสร้างสนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนโครงการ และอุปกรณ์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา และเทคโนโลยี
พล.อ.ประวิตร ยังเน้นย้ำเรื่องหลักปฏิบัติปฏิรูปโอลิมปิก หรือ Olympic Agenda 2020ในปีหน้า โดยขอให้คณะกรรมการทุกคน ได้ศึกษา-ทบทวน นำไปปฏิบัติ ใช้กับการกีฬา ได้แก่ การมีส่วนร่วมกับสังคม การเผยแพร่การศึกษาตามหลักปรัชญาโอลิมปิก หลักจริยธรรม จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาล และความโปร่งใสการสนับสนุนนักกีฬาทุกๆด้าน รวมถึงเรื่องทุน การศึกษาในกองทุนสงเคราะห์ต่างๆและด้านการงานอาชีพการยกย่องเชิดชูเกียรตินักกีฬา ที่ใสสะอาด ปฎิบัติตามกฎระเบียบ ตลอดจนเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ รวมทั้งให้คณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ในคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ได้ทบทวนงานตาม พันธกิจของแต่ละฝ่าย ให้สอดคล้องตามหลักปฏิบัติ Olympic Agenda 2020 ดังกล่าว และพัฒนาระบบข้อมูลให้ทันสมัย ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป.-สำนักข่าวไทย