“ชิมช้อปใช้” เงินสะพัดเฉียดหมื่นล้าน หยุดยาว 3 วัน พุ่งเกือบ 2 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. ยอดใช้จ่าย “ชิมช้อปใช้” สะพัดกว่า 8,000 ล้านบาท
ช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ใช้จ่ายเกือบ 2,000 ล้านบาท เชียงใหม่และเชียงรายคึกคัก ด้าน
ก.คลัง ขอบคุณโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อให้ความร่วมมืองดจัดโปรโมชั่นดึงลูกค้า


นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
(ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า
จากการจัดเก็บข้อมูลในช่วงวันหยุดเทศกาลวันออกพรรษายาว 3 วันที่ผ่านมา (12-14
ต.ค.) พบว่ามีประชาชนเดินทางออกไปใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้จำนวนมาก
ทำให้ร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยโดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ
มียอดการใช้จ่ายอย่างคึกคัก ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดออกสู่ต่างจังหวัดตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
เช่น ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และเพชรบูรณ์
ประชาชนต่างพากันเดินทางไปท่องเที่ยวและใช้เงินจำนวนมาก



นายชาญกฤช กล่าวว่า รัฐบาลถือว่าเป็นความสำเร็จในการจุดประกายให้เกิดสังคมไร้เงินสดเป็นวงกว้าง
เป็นการสร้างฐานผู้ใช้
e-wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างยอดผู้ใช้ได้เป็น
10 ล้านคนในคราวเดียว พ่อค้า แม่ค้า คนสูงวัย ประชาชนในต่างจังหวัด
ร้านค้าที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
ประชาชนจะคุ้นเคยและเห็นแล้วว่าเพิ่มโอกาสให้ได้ บางร้านเล็ก ๆ
ขายผักในตลาดมีเงินเพิ่มจากช่องทางนี้ สำหรับคนค้าขายรายย่อยคือกำลังใจและโอกาส



สำหรับเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน (12-14 ต.ค.) มียอดการใช้จ่าย  1,842 ล้านบาท ตัวเลขการใช้จ่ายรวมตั้งแต่วันที่
27 กันยายน – 14 ตุลาคม 2562 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,071.1 ล้านบาท
แบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 7,967 
ล้านบาท จากกระเป๋า 2 จำนวน 104 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม 741.2 ล้านบาท ร้านช้อป
3,242.7 ล้านบาท ร้านใช้ 72.6 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 1,578.3 ล้านบาท ส่วนผู้ไปใช้สิทธิ์
8,328,931 คน ผู้ที่ยังไม่ไปใช้สิทธิ์ 1,671,395 คน
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์มากที่สุดอันดับที่ 1กรุงเทพฯ 1,046.7 ล้านบาท
2.ชลบุรี 521.4 ล้านบาท และ 3.สมุทรปราการ 344.7 
ล้านบาท ส่วนเชียงใหม่เพิ่มเป็น 182.3 ล้านบาท และเชียงราย 79.7 ล้านบาท


“ขอชื่นชมและขอบคุณผู้ประกอบการร้านค้า
ทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อทุกรายที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งในการยุติการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมทันที
หลังจากได้มีการเรียกมาชี้แจงทำความเข้าใจ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
รวมถึงปรับปรุงระบบให้บริการหน้าจุดชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนใหม่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
โดยไม่มีเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่เป็นธรรม” นายชาญกฤช กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%