โพลล์ ชี้มาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ช่วยให้ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้น

กรุงเทพโพลล์ 10 ต.ค.- กรุงเทพโพลล์ สำรวจความเห็นประชาชนต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ พบร้อยละ 65.6 ช่วยให้ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ในการพาครอบครัวไปเที่ยวกิน ช้อป ร้อยละ 55.7 รอการขยายเวลาและเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียน และร้อยละ50.4 เห็นด้วยหากจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้อีกในปีหน้า


หลังจากมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ มีผู้ลงทะเบียนครบจำนวนตามเป้าหมาย กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ  จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเห็นของประชาชนต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้”  โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,184 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.3 ไม่ได้เข้าร่วมลงทะเบียนมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ขณะที่ร้อยละ 34.7 ได้เข้าร่วมลงทะเบียน

ประชาชนที่เข้าร่วมลงทะเบียนมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.5 สามารถลงทะเบียนได้ ขณะที่ร้อยละ 35.5 ไม่สามารถลงทะเบียนได้ โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 14.7 ให้เหตุผลว่าต้องรอคิว รองลงมาร้อยละ 13.0  ให้เหตุผลว่าครบ 1 ล้านคนต่อวันแล้ว และร้อยละ 9.5 ลงแล้วไม่ผ่านเกณฑ์


โดยผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้เลือกใช้เงินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 17.7  รองลงมาคือภาคกลางคิดเป็นร้อยละ 16.2 และภาคเหนือคิดเป็นร้อยละ 15.5 โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลือกจังหวัดไปใช้เงินมาตรการ ชิม ช้อป ใช้คือ เป็นจังหวัดที่ใกล้ที่อยู่อาศัยคิดเป็นร้อยละ 52.2  รองลงมาคือ เป็นจังหวัดที่อยากไปท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 22.6 และเป็นจังหวัดที่ทำงานอยู่คิดเป็นร้อยละ 18.5 

ทั้งนี้เมื่อถามว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในเรื่องใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.4 จะนำไปซื้อของใช้ภายในบ้าน รองลงมาร้อยละ 50.8 จะนำไปซื้อของกิน ไปใช้ในร้านอาหาร และร้อยละ 10.3 จะนำไปใช้เป็นค่าโรงแรม ค่าที่พัก

เมื่อถามความเห็นต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ทำให้ตัวท่านและครอบครัวสามารถไปเที่ยว ไปกิน ไปช้อป ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 65.6 เห็นว่าช่วยให้ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 34.4 เห็นว่าค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด


เมื่อถามว่า“อยากให้ภาครัฐมีการขยายเวลาและเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียน มาตรการ ชิม ช้อป ใช้ หรือไม่” ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.7 อยากให้เพิ่มเพราะจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ร้อยละ 44.3 ไม่อยากให้เพิ่มเพราะคิดว่าไม่ช่วยอะไรเปลืองภาษีประชาชน

ส่วนความเห็นต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ช่วงปลายปีได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ  53.1 เห็นว่าจะช่วยกระตุ้นได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 46.9 เห็นว่าจะช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

สุดท้ายเมื่อถามว่า “เห็นด้วยหรือไม่หากภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบนี้อีกในปีหน้า” ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.4 เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 40.2 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 9.4 ไม่แน่ใจ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง