fbpx

ชิมช้อปใช้วันแรกเงินสะพัดกว่า 1 ล้านบาท

ก.คลัง 27 ก.ย. – มาตรการชิมช้อปใช้ ลงทะเบียน 5 วันแรกเป็นไปตามเป้า จากการลงทะเบียนวันที่ 2 มีผู้ได้รับสิทธิ์ 775,232 ราย จากโควตา 1 ล้านราย ขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่ลงทะเบียนก่อนกดยืนยัน หากลงผิดลงใหม่ได้ เผยยอดใช้จ่ายวันแรกกว่า 1 ล้านบาท



นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความสำเร็จการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการชิมช้อปใช้ 5 วันแรก มีผู้สนใจเข้าร่วมเต็มตามโควตา 1 ล้านรายแต่ละวันแล้ว


สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเปิดรับลงทะเบียนและมีโควตา 1 ล้านรายนั้น มีผู้ผ่านเกณฑ์ 775,232 ราย โดยผู้ได้รับสิทธิ์จะทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันนี้ และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2562 เมื่อเริ่มใช้สิทธิ์ครั้งแรกแล้วสามารถใช้สิทธิ์ต่อเนื่องได้จนสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562

ทั้งนี้ หากพิจารณารายละเอียดพบว่าผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์จากการลงทะเบียนวันที่ 2 ส่วนใหญ่กว่า 87,000 ราย มีสาเหตุจากการยืนยันตัวตนหรือการกรอก OTP เกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด 3 นาที อีกส่วนหนึ่งกว่า 67,000 ราย มีข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการกรอกข้อมูลผิดพลาด เช่น การใส่คำนำหน้าชื่อ ไม่ว่าจะเป็น นาย นาง หรือนางสาวลงในช่องที่จะต้องกรอกชื่อ ซึ่งไม่ต้องกรอกคำนำหน้าชื่อ หรือความสับสนระหว่างหมายเลขศูนย์กับตัวอักษร O (โอ) ในส่วนของรหัสที่อยู่ด้านหลังบัตรประชาชน เป็นต้น และอีกกว่า 70,000 ราย ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากเลือกจังหวัดที่ต้องการไปใช้สิทธิ์ตรงกับจังหวัดที่เป็นทะเบียนบ้านของตน

โฆษกกระทรวงการคลัง เน้นย้ำว่าขอให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้โปรดกรอกข้อมูลระหว่างลงทะเบียนด้วยความรอบคอบและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนยืนยัน อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จสามารถลงทะเบียนใหม่ได้จนกว่าจะมีผู้รับสิทธิ์ครบ 10 ล้านคน


ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า มาตรการชิมช้อปใช้ ซึ่งเป็นวันที่ 5 ที่เปิดให้ขอสิทธิ์ โดยวันนี้เวลา 02.56 น. มียอดการจองสิทธิ์เต็ม 1 ล้านคน ซึ่งธนาคารได้มีการติดตามการลงทะเบียนตลอดเวลาทันทีที่ทราบว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าลงทะเบียนและเกิดความล่าช้านั้น ธนาคารเร่งขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว มีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ และยังคงมีความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ให้มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด พร้อมยืนยันว่าระบบไม่ได้ล่ม แต่เนื่องจากมีผู้เข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก เช่น เมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้รอลงทะเบียนชั่วโมงแรกมากกว่า 700,000 คน ทำให้ระบบหน่วงจำเป็นต้องใช้เวลาในการลงทะเบียน

ขณะที่การใช้จ่ายในวันแรกมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากรายงานเบื้องต้นมียอดจับจ่ายใช้สอยประมาณ 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย มีประมาณร้อยละ 80 ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” แล้ว ยอมรับว่ายังมีผู้ที่ยังไม่ได้รับ SMS หรืออีเมล์ยืนยันผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์ เนื่องจากการตรวจสอบใบหน้าหรือรูปลักษณ์ไม่ตรงกับบัตรประชาชน สาเหตุอาจจะเกิดจากแสงขณะถ่ายภาพน้อย การทำศัลยกรรม หรือภาพถ่ายบนบัตรประจำตัวประชาชนถ่ายไว้นานหลายปีแล้ว หากมีปัญหาสามารถติดต่อได้ที่คอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยวันนี้มีผู้เข้าไปติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทยกว่า 5,000 ราย พร้อมย้ำว่าธนาคารกรุงไทยมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มข้น โดยใช้ทั้งระบบ AI และ Manual ควบคู่กัน

สำหรับร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้เปิดขายสินค้าผิดวัตถุประสงค์นั้น ได้มีการตัดสิทธิ์ก่อนหน้านี้มากกว่า 10 ราย และจะเดินหน้าตรวจสอบความถูกต้องต่อไป โดยวันนี้ยังไม่ได้รับรายงานร้านค้าถุงเงินกระทำผิด มีเพียงลืมเปิด Location ทำให้ไม่สามารถค้นหาร้านและรับเงินได้ ส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้ขยับเวลาการลงทะเบียนจาก 00.00 น.ของทุกวัน เป็นเวลา 08.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้นนั้น ยืนยันว่าจะยังไม่มีการเลื่อนเวลาลงทะเบียนแต่อย่างใด ยังคงใช้เกณฑ์ผู้ลงทะเบียนก่อนมีสิทธิ์ก่อน หากจะมีการปรับหลักเกณฑ์ต้องเป็นการพิจารณาของรัฐบาลไม่ใช่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ตัดสินใจ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553