จามจุรีสแควร์ 25 ก.ย. – รองนายกรัฐมนตรีย้ำชิมช้อปใช้ หนุนการท่องเที่ยว ขณะที่เลขาฯ บีโอไอระบุเงินกองทุนขีดความสามารถจะเริ่มออกสู่ระบบหนุนการลงทุน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปรากฎการณ์ประชาชนสนใจลงทะเบียนร่วมโครง “ชิม ช้อป ใช้” หนาแน่นตลอดทั้ง 3 วันติดต่อกันเต็มโควตาทุกวัน 1 ล้าน ถือว่าในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว การส่งเสริมการท่องเที่ยวนับว่ามีความสำคัญมาก และเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รัฐบาลจึงอยากให้บรรยากาศการท่องเที่ยวกระจายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตชนบท จึงเห็นว่าประโยชน์ของโครงการชิมช้อปใช้ทำให้การท่องเที่ยวตื่นตัวมากขึ้น เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ หากประชาชนออกไปท่องเที่ยวเมืองรองหัวเมืองต่าง ๆ ในชนบทจำนวนมากจะทำให้การใช้จ่ายในชนบทดีขึ้น ชาวบ้านท้องถิ่นจะได้ประโยชน์ตามไปด้วย อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงเป็นสาขาที่สำคัญในขณะนี้
“กระทรวงการคลังผลักดันชิมช้อปใช้ออกมา ดูเผลิน ๆ เหมือนให้คนออกไปท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่เป้าหมายสำคัญ คือ ต้องการให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนต่างจังหวัดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี เพราะเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไร การที่คนไทยร่วมใจลุกขึ้นมาช่วยกัน นับว่าเป็นสิ่งที่ดี และพยายามทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายสมคิด กล่าว
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สั่งการให้บีโอไอจัดทำโปรแกรมดึงดูดให้ภาคเอกชนนำเงินกองทุน วงเงิน 10,000 ล้านบาท ออกไปใช้ประโยชน์ตามเป้าหมายของ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น ต้องการเสริมให้เอกชนลงทุนในการปรับเปลี่ยนประเทศในเชิงยุทธศาสตร์ สเปกเอกชนที่เข้าข่ายในการให้เงินสนับสนุนและได้รับประโยชน์ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการเจรจาการลงทุนที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน บีโอไอจึงต้องเสนอมาตรการเชิกรุกรองรับให้เอกชนนำเงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นำเงินออกไปใช้ประโยชน์ตามการเจรจาของเอกชนแต่ละราย.-สำนักข่าวไทย