ทำเนียบฯ 23 ก.ย.-“อนุทิน” จัดทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมเร่งดูแลประชาชนพื้นที่ภาคใต้ หลังประสบปัญหาหมอกควัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงบทบาทของกระทรวงสาธารณสุขในการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ภายหลังน้ำลด ว่า ทางกระทรวงมีความพร้อมเต็มที่ และได้ดูแลมาตั้งแต่น้ำท่วมจนถึงน้ำลด เพราะอาจจะมีการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งทางกระทรวงมีความพร้อมทั้งยา เวชภัณฑ์ และสถานบริการสาธารณสุขไว้รองรับการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาจำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยกระทรวงมีหน้าที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการซ่อมแซมสถานพยาบาลที่เสียหาย และเสริมอุปกรณ์เพื่อให้การบริการไม่หยุดชะงัก ทั้งนี้การดูแลด้านสุขภาพจิตและภาวะซึมเศร้า จะมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤติ ซึ่งมีทั้งจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเข้าไปพบปะ เยียวยาสภาพจิตใจโดยตรง ที่ผ่านมาพบประชาชนมีภาวะเครียด กว่า 100 ราย และเครียดจัด 22 ราย ซึ่งต้องนำมาบำบัดเยียวยา จนมีภาวะที่ดีขึ้น
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะเดียวกันทุกกระทรวงได้บูรณาการความร่วมมือ เพื่อเยียวยาและเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อฟื้นฟูโดยเร็ว รวมถึงพิจารณาความเสียหายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ดูแลอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และเป็นไปตามหลักเกณฑ์
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้มีค่าเกินมาตรฐาน ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้นำความช่วยเหลือต่าง ๆ ลงไปในพื้นที่ โดยเฉพาะการแจกหน้ากากอนามัยและยาให้ประชาชน เพื่อป้องกันโรคที่มากับฝุ่นและควัน ทั้งนี้ต้องให้ประชาชนช่วยกันดูแลสุขภาพของตนเอง ด้วยการลดกิจกรรมกลางแจ้ง เชื่อว่าประชาชนเข้าใจและทราบดีว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร
ส่วนปัญหา 3 สารเคมีอันตราย ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ที่จะให้ยกเลิกการใช้ภายในสิ้นปี 2562 นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขต้องเป็นแม่งานในเรื่องนี้ เนื่องจากในข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีส่งมาเพื่อประกอบการตัดสินใจ ได้เน้นย้ำว่าไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเกษตรกร กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเข้ามามีบทบาท โดยยืนยันว่าไม่สนับสนุนในส่วนของสารเคมี เพราะเกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างชัดเจน และยากต่อการรักษา หรือทำให้กลับมาเป็นปกติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ จุดยืนของกระทรวงจึงไม่สนับสนุน โดยได้หารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วและเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
“ยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้สารเคมีอันตรายหมดไปจากประเทศไทย แต่จำเป็นต้องหาสิ่งที่มาทดแทนให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้ต่อไป โดยมีผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย