สวมบัตรประชาชนซื้อบริการสื่อสาร ตอน 2

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – เมื่อวานนี้ สำนักข่าวไทยได้เปิดประเด็นผู้เสียหายถูกทวงหนี้จากค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เมื่อไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการพบว่ามีคนนำสำเนาบัตรประชาชนไปซื้อซิมโทรศัพท์ ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว เมื่อแจ้งขอยกเลิกและข้อมูลการใช้โทรศัพท์จากบริษัทกลับถูกปฏิเสธ ซึ่ง กสทช. ระบุ บริษัทสื่อสารห้ามปฏิเสธ ติดตามจากรายงาน



ปัญหาการนำสำเนาบัตรประชาชนที่ไม่ใช่ของตนเองไปยื่นซื้อบริการสื่อสาร ก่อนทิ้งเบอร์ไม่จ่ายค่าบริการ ปล่อยให้เจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงต้องรับเคราะห์แทน และถูกบริษัทสื่อสารปฏิเสธให้ข้อมูล รวมถึงปฏิเสธการระงับการใช้เบอร์โทรที่ถูกสวมบัตร หรือยกเลิกเบอร์ดังกล่าวนั้น


กสทช.ในฐานะองค์กรหลักที่ดูแลด้านการสื่อสาร ชี้แจงกับสำนักข่าวไทยว่า การใช้บัตรประชาชนของคนอื่นไปยื่นซื้อซิมโทรศัพท์มือถือหรือซื้อบริการอื่นๆในบริษัทที่ให้บริการด้านสื่อสาร ทำให้เจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงได้รับความเสียหาย น่าจะเกิดมานานไม่ต่ำกว่า 5-10 ปีแล้ว เพราะการซื้อขายในช่วงนั้นใช้เพียงสำเนาบัตรประชาชน ก็สามารถซื้อได้ อีกทั้งบัตรประชาชนที่ใช้เป็นแบบเก่าปลอมแปลงได้ง่าย เพียงแค่ใส่รูปของตนเองติดบัตรคนอื่นก่อนนำไปถ่ายเอกสารและยื่นซื้อบริการต่างๆ จากร้านค้าหรือร้านตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์หรือที่เรียกว่า ลูกตู้ก็ได้แล้ว

แต่หลังจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนมาใช้บัตรประชาชนระบบชิพการ์ด ปัญหานี้ก็หมดไป อาทิ เจ้าของเบอร์ตัวปลอม เป็นชาวต่างชาติ ได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว หากเป็นคนไทยก็อาจพ้นจากการบังคับคดี

ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียหายเจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงเพิ่งตกเป็นเหยื่อในช่วงเวลานี้ อาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย คนที่คดีหมดอายุความแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรืออาจเป็นคนพวกไม่มีเงินจ่าย ยอมทิ้งเบอร์เสีย และเปิดเบอร์ใหม่

และในกรณีที่บริษัทสื่อสารปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลหรือปฏิเสธการระงับใช้บริการนั้น กสทช.ยืนยันว่า บริษัทสื่อสารไม่มีสิทธิทำเช่นนั้นได้ แต่ต้องให้ข้อมูลทันทีหลังตรวจสอบแล้ว พบว่า หมายเลขบัตรประชาชนถูกต้อง และผู้เสียหาย คือ เจ้าของบัตรประชาชนตัวจริง ไม่จำเป็นที่ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความแต่อย่างใด และสาเหตุที่บริษัทสื่อสารแนะนำผู้เสียหายเช่นนั้น เป็นเพราะต้องการให้แน่ใจว่า ผู้แสดงตนไม่ใช่เจ้าของเบอร์ที่แท้จริง ส่วนผู้เสียหายเองก็มีสิทธิตามกฎหมาย หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งความกลับดำเนินคดี บริษัทสื่อสารได้

กสทช. ยังระบุอีกว่า คดีในลักษณะนี้มีอายุความถึง 2 ปีและที่สำคัญจำนวนเงินที่ค้างจ่ายแค่หลักพันบาท หากต้องสู้กันในชั้นศาล ย่อมไม่คุ้ม บริษัทสื่อสารส่วนใหญ่จึงมักขายหนี้ส่วนนี้ให้สำนักกฎหมายไปจัดการ ดังนั้นหากได้รับจดหมายทวงหนี้จากสำนักกฎหมายให้ตรวจสอบว่า เหตุเกิดช่วงไหน และระยะเวลานานเกิน 2 ปีหรือไม่ หากเกินก็สามารถต่อสู้ได้ว่า คดีหมดอายุความแล้ว และถ้าไม่ใช่เบอร์ที่ตนซื้อมาก็แจ้งยกเลิกทันที และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้สวมบัตรฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง