ภูมิภาค 4 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย และเตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.พิษณุโลก กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยและเตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่ จากนั้นไปมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยใน อ.วังทอง กว่า 12,000 ครอบครัว หลังสถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พร้อมกล่าวว่า การแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ จะต้องมีแหล่งเก็บน้ำ หรือแก้มลิง อีกทั้งควรปรับตัว โดยเปลี่ยนอาชีพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น เปลี่ยนจากทำเกษตร มาทำประมงพื้นบ้าน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน
แต่ยอมรับในบางพื้นที่อาจสร้างอ่างกักเก็บน้ำไม่ได้ เช่น ลุ่มแม่น้ำยมในเขตสุโขทัย ที่มีปัญหาการระบายน้ำทุกปี เพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อาศัย หนึ่งในแนวทางแก้ปัญหา คือ เจ้าของที่ดินควรให้รัฐบาลเช่าพื้นที่สร้างแหล่งเก็บน้ำ
ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม โฆษกรัฐบาลโพสต์ทวิตเตอร์ “อาหารมื้อแรกวันนี้ของท่านนายกฯ ระหว่างเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนที่พิษณุโลกและสุโขทัย” เป็นภาพข้าวราดผัดกะเพราโปะด้วยไข่ดาว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่สุโขทัยก็ยังน่าห่วง โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 2 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง ที่เกิดกระแสน้ำผุดสูง 1 เมตร กัดเซาะแนวตลิ่งทรุดตัว จนน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร ยังไม่สามารถปิดกั้นทางน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานเต็มที่ เบื้องต้นยังรักษาพื้นที่เขตเศรษฐกิจใน อ.เมืองสุโขทัย ไว้ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงทรงตัว แต่สูงกว่าจุดวิกฤติ 7.40 เมตร คาดภายใน 2-3 วันนี้ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.-สำนักข่าวไทย