สุราษฎร์ธานี 3 ก.ย.- ผอ.สบอ.4 สุราษฎร์ฯ ไม่นิ่งนอนใจปมร้องเรียนค่าเบี้ยเลี้ยงลาดตระเวนลูกจ้างอุทยานฯ ใต้ร่มเย็น สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อนรายงานอธิบดีกรมอุทยานฯ ยันให้ความเป็นธรรมเต็มที่ แต่ถ้าพบทุจริตเอาผิดเฉียบขาด
กรณีลูกจ้างอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ร้องเรียนผ่านสื่อ โดยนำหลักฐานการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์การเรียกกลับเงินจากบัญชีค่าล่วงเวลาในโครงการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ Smart Patrol ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่กำหนดจ่ายให้กับลูกจ้างและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมโครงการรายละ 2,800 บาท แต่ถูกผู้บังคับบัญชาเรียกคืนทั้งหมด ก่อนนำกลับมาเฉลี่ยคืนในจำนวนที่ไม่เท่ากัน คือ รายละ 500-1,000 บาท
ล่าสุดนายศิวจักร ชื่นสังข์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) นายมนตรี บัวแก้ว ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) และผู้เกี่ยวข้อง แถลงเมื่อวันเย็นวันนี้ (3 ก.ย.) ว่า หลังทราบเรื่องราวจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน จึงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้สอบถามเบื้องต้นด้วยวาจาไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น พร้อมมอบหมายให้นายมนตรี ตรวจสอบเช่นกัน และเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีนายสุพจน์ คงเนียม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฎิบัติการไฟป่า นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นประธานกรรมการ โดยให้รายงานเหตุเบื้องต้นต่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภายใน 3 วัน และให้สืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อเสนออธิบดีต่อไป
นายศิวจักร กล่าวด้วยว่า การจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้กับลูกจ้างกรมอุทยานฯ ในโครงการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ เป็นนโยบายที่สำคัญของกรมอุทยานฯ เนื่องจากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจตราพื้นที่อุทยาน และเป็นการช่วยเหลือลูกจ้าง ซึ่งปัจจุบันมีรายได้น้อย มีเงินเดือนเพียงเดือน 7,500-9000 เท่านั้น ที่ผ่านมานายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้กำชับให้หัวหน้าอุทยานและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้เงินถึงมือลูกจ้างโดยตรง เมื่อมาเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ ตนจำเป็นต้องเร่งสืบสวนเพื่อให้คลายข้อสงสัยโดยเร็วที่สุด หากมีการทุจริต หรือเบียดบังเงินของลูกจ้างจริง ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด
“ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ หากรู้สึกไม่ปลอดภัย ขอให้แจ้งโดยตรงมายังตน ส่วนหัวหน้าอุทยานฯนั้น ต้องรอผลการตรวจสอบของ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติว่าจะต้องดำเนินการเช่นไรระหว่างการสืบสวน”
นายศิวจักร กล่าวอีกว่า การเดินลาดตระเวนพื้นที่ถือเป็นภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อใน 1-2 ปีที่ผ่านมาอธิบดีกรมอุทยานฯ เห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำงานหนัก และมีรายได้น้อย จึงพยายามเพิ่มสวัสดิการด้วยการนำนโยบายการลาดตระเวนเชิงคุณภาพมาใช้ เพื่อให้เกิดการทำงานที่ต่อเนื่องและทันท่วงที ส่วนการจ่ายเงินนั้น เมื่อทางสำนักฯ ได้รับโครงการจากแต่ละอุทยาน ซึ่งกำหนดเป็นปีงบประมาณปีละ 10 เดือน กำหนดให้เดินลาดตระเวนเดือนละ 14 วัน หรือชั่วโมงละ 50 บาท รวมเป็นเงิน 2,800 บาท ส่วนการจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขึ้นบัญชีนั้น ฝ่ายการเงินจะเป็นผู้ดำเนินการโอนเข้าบัญชีของผู้รับจ้างโดยตรง ฉะนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรต้องรอผลการสืบสวนจากคณะกรรมมการอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ Smart Patrol เริ่มมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 โดยลูกจ้างอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ผู้ร้อง อ้างว่าในการดำเนินงานของปีงบประมาณ 2561 ไม่มีปัญหา ลูกจ้างผู้ปฎิบัติงานได้เงินครบตามจำนวน แต่ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือน ต.ค.2561 รวมระยะเวลาเบิกจ่าย 8 เดือน ลูกจ้างไม่เคยได้รับเงินล่วงเวลาครบตามจำนวน.-สำนักข่าวไทย