สวนเบญจกิตติ 12 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีขออย่าตื่นตระหนกขยายความเหตุระเบิด ตั้งข้อสังเกตผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหา ทั้งที่กำลังเดินหน้าหลังร่าง รธน.ผ่านประชามติ ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ เผย ยังไม่มีสถานทูตประสานมา หลังมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึง กรณีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้หลายพื้นที่ภาคใต้ และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วานนี้ (11 ส.ค.) ต่อเนื่องวันนี้ (12 ส.ค.) ว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังทำงาน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก หรือนำไปขยายความ ให้เกิดความหวาดกลัวสับสน
“ทำไมถึงมีการก่อเหตุในช่วงนี้ ทั้งที่ช่วงก่อนทำประชามติ และระหว่างทำประชามติ ได้มีการแจ้งเตือนเฝ้าระวังเหตุอยู่แล้ว แต่เมื่อประชามติผ่านพ้นไป บ้านเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกำลังจะดีขึ้น กลับเกิดเหตุความรุนแรง จึงขอให้ไปสืบว่าใครอยู่เบื้องหลัง และใครที่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาเดินหน้าไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดในขณะนี้ เป็นเหตุที่เกินความคาดหมาย ไม่คาดคิดว่าจะเกิดในช่วงที่มีงานสำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีสถานทูตที่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ติดต่อหรือประสานเพื่อขอข้อมูล หรือขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ของไทยก็จะให้ความดูแล และให้ความช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มที่
ส่วนเหตุดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่นั้น นายดอน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูล หรือชี้แจงอะไรกับต่างชาติได้ ต้องรอการสรุปจากหน่วยงานความมั่นคงก่อน พร้อมขอประชาชนเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่รัฐ และให้ความร่วมมือคอยเป็นหูเป็นตาติดตามสังเกตสิ่งผิดปกติ และแจ้งอย่างเจ้าหน้าที่
ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมให้การดูแลและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากกรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการดูแล ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ที่ผ่านมา .- สำนักข่าวไทย