นายกฯ ขออย่าตื่นตระหนก ขยายความเหตุระเบิด

12-8-2559 12-28-32สวนเบญจกิตติ 12 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีขออย่าตื่นตระหนกขยายความเหตุระเบิด ตั้งข้อสังเกตผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหา ทั้งที่กำลังเดินหน้าหลังร่าง รธน.ผ่านประชามติ  ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ เผย ยังไม่มีสถานทูตประสานมา หลังมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึง กรณีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้หลายพื้นที่ภาคใต้ และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วานนี้ (11 ส.ค.) ต่อเนื่องวันนี้ (12 ส.ค.)   ว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังทำงาน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก หรือนำไปขยายความ ให้เกิดความหวาดกลัวสับสน

“ทำไมถึงมีการก่อเหตุในช่วงนี้ ทั้งที่ช่วงก่อนทำประชามติ และระหว่างทำประชามติ ได้มีการแจ้งเตือนเฝ้าระวังเหตุอยู่แล้ว แต่เมื่อประชามติผ่านพ้นไป บ้านเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกำลังจะดีขึ้น กลับเกิดเหตุความรุนแรง จึงขอให้ไปสืบว่าใครอยู่เบื้องหลัง และใครที่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาเดินหน้าไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ด้าน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า  เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดในขณะนี้ เป็นเหตุที่เกินความคาดหมาย ไม่คาดคิดว่าจะเกิดในช่วงที่มีงานสำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีสถานทูตที่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ติดต่อหรือประสานเพื่อขอข้อมูล  หรือขอความช่วยเหลือ  แต่เจ้าหน้าที่ของไทยก็จะให้ความดูแล และให้ความช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มที่

ส่วนเหตุดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่นั้น นายดอน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูล หรือชี้แจงอะไรกับต่างชาติได้ ต้องรอการสรุปจากหน่วยงานความมั่นคงก่อน พร้อมขอประชาชนเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่รัฐ และให้ความร่วมมือคอยเป็นหูเป็นตาติดตามสังเกตสิ่งผิดปกติ และแจ้งอย่างเจ้าหน้าที่

ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมให้การดูแลและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ  จากกรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  โดยจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการดูแล ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ที่ผ่านมา       .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร