พังงา 15 ส.ค.-ผู้ประกอบการที่พักบนชายหาดบางเนียงและหาดเขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขถูกคลื่นขนาดใหญ่กัดเซาะชายฝั่งได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้ไปตรวจสอบสภาพความเสียหายชายหาดบางเนียง และบริเวณหาดเขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ถูกคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าหาฝั่ง กัดเซาะได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวระยะทางหลายสิบกิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบความแรงของคลื่นกัดเซาะจนทำให้ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ ต้นสนขนาดใหญ่ ต้านทานไม่ไหว ทยอยล้มลงในทะเล จุดที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว รวมถึงรีสอร์ตที่พักต่างๆ มีห้องพักรวมกันแล้วมากกว่า 10,000 ห้อง คลื่นลมแรงกัดเซาะชายหาดอย่างต่อเนื่อง กัดเซาะเข้ามาในพื้นที่ 20-30 เมตร ต้นไม้ขนาดใหญ่เริ่มเอนเอียง เนื่องจากรากของต้นไม้ไม่มีหน้าดินสำหรับยึดเกาะ อาคาร ร้านค้าริมชายหาดโดนกัดเซาะจนฐานรากเริ่มโผล่ลอยอยู่บนอากาศ บางส่วนต้องหยุดกิจการชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยว บางส่วนต้องนำกระสอบทรายมาวางเพื่อเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะ
ทางผู้ประกอบการต่างเร่งนำไม้สนมาปักเป็นแนวกันคลื่น พร้อมนำกระสอบทรายมาวางอีกชั้น เพื่อเป็นพนังกันคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่ชายหาด แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากคลื่นมีความแรงมาก ประกอบกับเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งหาแนวทางแก้ไข
ผู้สื่อข่าวบอกว่าผู้ประกอบการร้านอาหาร รีสอร์ต และบังกะโล ที่อยู่ตลอดแนวชายหาดที่ได้รับความเดือดร้อน ตั้งแต่ชายหาดเขาหลักจนถึงแหลมปะการัง รวมระยะกว่า 10 กิโลเมตร ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้นทุกปี ผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดต่างทำการก่อสร้างกำแพงริมตลิ่งป้องกัน แต่กลับพบว่ายิ่งก่อสร้างกำแพงยิ่งเกิดกัดเซาะทวีความรุนแรงมากขึ้น
นายสมชาติ เมืองศรี ผู้ประกอบการร้านอาหารริมชายหาดนางทอง ต.คึกคัก กล่าวว่า อยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบมาดำเนินการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายหาดที่เกิดขึ้นทุกปี.-สำนักข่าวไทย