fbpx

สตม.โชว์จับต่างชาติก่ออาชญากรรมในไทยหลายรูปแบบ

กรุงเทพฯ 13 ส.ค.- สตม.จับกุมชาวต่างชาติก่อเหตุอาชญากรรมหลายรูปแบบ ทั้งคดีหลอกชาวอินเดียปลดทรัพย์ พนันออนไลน์และฉ้อโกง


พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติหลายคดี คดีแรกจับกุมนายโมฮัมหมัด บิน กาซิม (Mohammad bin qasim)  สัญชาติปากีสถาน และนายกุลดิป ซิง  (Kuldip Singh) สัญชาติอินเดีย หลังร่วมกันลวงผู้เสียหายชาวอินเดียผ่านทางทางเฟซบุ๊ก โดยเปิดบริษัทจัดหางานปลอม เพื่อมาทำงานร้านอาหารในประเทศไทย ก่อนพาไปปลดทรัพย์ โดยพานั่งรถยนต์ไป จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างทางบังคับเอาเงินสดและโทรศัพท์ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ก่อนโยนกระเป๋าเดินทางและพาสปอร์ตลงจากรถแล้วนำผู้เสียหายไปทิ้งไว้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ ตำรวจ สภ.หนองแหน ก่อนประสานงาน บก.สืบสวน สตม.ติดตามจับกุมคนร้ายได้ที่จ.สมุทรปราการ และย่านอ่อนนุช  ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเชื่อว่าก่อเหตุมาแล้วหลายราย

คดีที่ 2 จับกุมนายเย (Yeoh ) หรือเดวิด สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม 78 ใบ โน้ตบุค 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด  เอกสาร ที่ใช้สำหรับเปิดบัญชีร่วม 119 รายการ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากบริษัทรับพนันออนไลน์ แห่งหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านให้หาคนรับจ้างเปิดบัญชีโดยจะได้เงินเดือนๆละ 150,000 บาท และนายเดวิดจะจ้างคนไทย ให้เงินเดือน 15,000 บาท ให้หาคนรับจ้างเปิดบัญชีจ่ายค่าตอบแทน 3,000 บาทต่อเล่ม  


โดยรูปแบบของกระบวนการ นี้จะมีลูกค้าเป็นกลุ่มนักพนันและบางกลุ่มเป็นมิจฉาชีพฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบต่างๆแล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทเพื่อตัดวงจร โดยตำรวจสืบสวนจาก1 ในขบวนการผู้ต้องหา แฮค LINE และ Facebook แล้วไปขอยืมเงินผู้อื่น ก่อนขยายผลตามเส้นทางการเงิน และจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ อ.สะเดาจ.สงขลา

นอกจากนี้ ยังจับกุมนายแดฮุง ( Daehung) สัญชาติเกาหลีใต้ หลังก่อเหตุฉ้อโกง ผู้อื่น โดยหลอกนำข้อมูลทางการเงินผู้อื่น ไปสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ทางเว็บไซต์ชื่อดังของเกาหลีใต้จากนั้น จะยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า ให้บริษัทคืนเงินเข้าระบบตัวเอง โดยก่อเหตุกว่า 170 ครั้งมูลค่าความเสียหายกว่า 1.9 ล้านบาทก่อนหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ยังจับกุมนางปาร์ค (Park ) อายุ 59 ปี สัญชาติเกาหลีใต้  หลังฉ้อโกงเงินของบริษัท กว่า 440 ล้านวอนหรือประมาณ 10 ล้านบาท  และจับกุมนายอิริค (Eric ) สัญชาติอเมริกัน ที่เคยมีประวัติต้องโทษเกี่ยวกับคดีละเมิดเด็กที่สหรัฐ เคยถูกศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี และปรับกว่า 10,000  ดอลลาร์สหรัฐ แต่พ้นโทษมาแล้ว กระทั่งล่าสุด ทางการสหรัฐประสานงาน มายังทางการไทย เพราะเกรงว่าจะก่อเหตุซ้ำก่อนผลักดันกลับประเทศ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด