“อนุทิน” ขอ ขรก.ใส่เกียร์ 5 เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ

เมืองทองธานี  8 ส.ค. – “อนุทิน” ขอส่วนราชการร่วมมือขับเคลื่อนประเทศ  ใส่เกียร์ 5 ลุยให้เต็มที่  ไม่ต้องรอรัฐมนตรีมีนโยบายอะไร ให้เอาผลงานมาวัด ยืนยัน ผลงานดี ไม่ใครย้ายได้ ระบุ พรรคภูมิใจไทยพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเป็น ขอสนับสนุนงานของทุกคน


 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกล่าวในการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง วันนี้ (8 ส.ค.) ว่า  วันนี้พวกเรามีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน  พวกเราที่ผ่านการเลือกตั้งกันมา ประชาชนจะต้องเข้าถึงตัวเรามากขึ้น  ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ทุกคนต้องมีคำตอบให้กับประชาชนได้ทุกเรื่อง 

นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีในสังกัด 7 คน ได้คุยกันและคิดนโยบายภายใต้แนวคิด “ไทยแลนด์เฟิร์ส” คือ ไทยคิด ไทยทำ และคนไทยต้องได้เป็นคนแรก งบประมาณที่จะใช้จ่ายแต่ละปี มีทั้งจากการท่องเที่ยว การขายสินค้าไทย รับจ้างแรงงานไทย เราจะหาทางทำให้เงินหมุนเวียนได้หลายรอบ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในเศรษฐกิจฐานราก  ทุกงบประมาณต้องลงถึงประชาชนในทุกระดับชั้นให้ได้มากที่สุด 


“ผมได้พูดคุยกับข้าราชการระดับสูง ทั้งสาธารณสุข คมนาคม ก็ทราบว่า ปัจจุบันมีหลายโครงการที่ทำแล้ว ทำไม่เสร็จ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ผมจะทำหน้าที่ทวงเงินเหล่านี้กลับคืนมา ทำหน้าที่จัดการสัญญาทั้งหลายที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน ให้กลับมาทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ หากไม่ทำ ก็ต้องรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติให้ได้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนกระทรวงสาธารณสุขก็มีเรื่องกัญชา ที่จะนำไปใช้ทางการแพทย์ ต่อยอดภาคอุตสาหกรรม และอีกหลายเรื่องเมื่อถึงเวลาอันควร หากผลการศึกษาออกมาเป็นที่น่าพอใจ ตัวสารสกัดจากกัญชาจะช่วยต่อยอดทางเศรษฐกิจได้มาก นอกจากนั้นจะโปรโมทการแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก สมุนไพรไทย มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 

“ส่วนการอำนวยความสะดวกต่างๆ ขอย้ำว่า ให้ทุกหน่วยงานมองประชาชนเป็นผู้มารับบริการ และเราเป็นผู้ให้บริการ อย่าไปมองว่า ตัวเองเป็นผู้ควบคุมหรือผู้กำกับ นี่คือภารกิจที่มอบหมายให้รัฐมนตรีภายใต้กำกับดูแลยึดถือปฏิบัติ และเป็นเรื่องโชคดีที่การให้บริการประชาชน one stop service ตรงกับนโยบายแกนนำรัฐบาล เราก็มั่นใจว่าจะสามารถให้บริการกับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องเหล่านี้ได้” นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงคมนาคม จะรับสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี เป็นตัวรับการเพิ่มมูลค่า การแก้ไขปัญหาเกษตรกร โดยเฉพาะกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ที่จะต้องรับพืชปาล์มมาเป็นพลังงานทางเลือก และต้องพิจารณาการรับผลผลิตจากยางพารา มาทำแบริเออร์ อิฐตัวหนอน ทำถนน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชที่เราปลูกกันทั่วประเทศ  เราสนับสนุนให้มีการแปรรูปผลผลิตเหล่านี้ในวิสาหกิจชุมชนอยู่แล้ว แต่เราจะต้องพัฒนาให้มีการแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ด้วย หากทำสำเร็จ จะช่วยเหลือเกษตรกร และสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์เฟิร์ส 

“ส่วนเรื่องการบริหารองค์กร ขอให้ทำเต็มที่ พวกเรามาดี นี่คือคำพูดที่ให้ไว้กับข้าราชการ เราไม่ได้มาห้ำหั่นอะไรกัน ลืมอดีตทุกอย่าง มองไปข้างหน้า ขอให้เอาผลงานมาแลก จะได้รู้ว่าอยู่ได้หรือไม่ได้ ถ้าทำได้ดี ไม่มีใครย้ายท่านได้ เพราะเราต้องการคนทำงาน ขอให้ใส่เกียร์ 5 ลุยให้เต็มที่ ไม่ต้องรอดูว่ารัฐมนตรีมีนโยบายอย่างไร ถ้าผลงานดี ไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ความเป็นธรรมเกิดขึ้นแน่นอน ขอให้ท่านได้สบายใจ ทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องเหลียวหลัง  ต่อไปนี้จะใช้เวลาไม่มาก พรรคภูมิใจไทยพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเป็น ไม่อยากใช้เวลามาก  ขอกราบเรียนว่า ตั้งแต่ทำงานได้รับกำลังใจจำนวนมาก ขออาสาตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนงานทุกคน” นายอนุทิน กล่าว   . – สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย